บอล คอนโด
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย จะไม่มีพลพรรค "กังหันสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ ไปวาดลวดลายฝีเท้าให้แฟนบอลทั่วโลกรับชมกันเหมือนอย่างเคย...
เกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมแดนกังหันเมื่อปี 2010 พวกเขายังไปลุ้นแชมป์กับ สเปน ในรอบชิงบอลโลกอยู่เลยแต่ทว่าในบอลโลกหนนี้กลับไม่ได้แม้แต่จะไปเล่นรอบเพลย์ออฟด้วยซ้ำ
จากมุมมองของผมแล้วมีหลายปัจจัยที่ กังหันสีส้ม ทีมที่แฟนบอลชาวไทยแอบปันใจเชียร์ค่อนข้างมากฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย โดยปัจจัยที่เห็นได้ชัดเลยที่สุดคือตัวผู้เล่นที่ไม่เหมือนเดิม
อดีตทัพกังหันสีส้มต่างมีเหล่าสตาร์โผล่ขึ้นมาแสดงฝีเท้าให้โลกได้เห็นไม่ว่าจะเป็นสามทหารเสืออย่าง รุท กุลลิท, มาร์โก แวน บาสเทน, แฟรงค์ ไรด์กาจ หรือรุ่นต่อๆมาอย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, คาเรน ซีดอร์ฟ, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ ต่อเนื่องมาถึงล่าสุดในยุคของ โรบิน ฟานเพอร์ซี, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ และ อาร์เยน ร็อบเบน
แล้วกลับมาดูตอนนี้แต่ละตัว กองหน้าตัวจริง วินเซนต์ แยนส์เซน หอกสากกะเบือสำรองของสเปอร์ส หรืออย่าง เมมฟิส เดปาย ปีกขี้แอ็กจากลียง ถึงขนาดต้องจำใจเรียก ไรอัน บาเบิล อดีตปีกจากลิเวอร์พูลที่หมดสภาพกลับมาติดทีมอีกครั้ง
เข้าใจว่าช่วงนี้กำลังถ่ายเลือดใหม่ แข้งจอมเก๋าทยอยลาทีมชาติ แข้งวัยรุ่นต่างติดทีมเข้ามาแทน แต่ฝีเท้าของดาวรุ่งชาวดัตช์ไม่ได้ถึงครึ่งชาติยักษ์ใหญ่จากยุโรป ยกตัวอย่าง ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี หรือแม้แต่อิตาลี ที่มีดาวรุ่งฝีเท้าฉมังเกิดขึ้นตลอดเวลาซึ่งนั่นคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทัพดัตช์ฟอร์มดิ่งลงเหวแบบกู่ไม่กลับและอดไปเล่นบอลโลกแบบช็อกกันไปทั้งบาง
เกมที่ชนะ สวีเดน 2-0 ในนัดสุดท้าย โดยเกมนี้ อาร์เยน ร็อบเบน เหมาสองประตู เรียนตามตรงว่าผมดูเกมแล้วสงสารปีกลายครามวัย 33 ปีรายนี้จับใจ
โดยก่อนเกมเนเธอร์แลนด์มีเป้าหมายต้องเอาชนะ สวีเดน 7 ลูกเท่านั้นถึงจะมีลุ้นเข้ารอบแต่เมื่อจบเกมทำได้แค่ 2 ลูกสีหน้าของ ร็อบเบน แสดงออกอย่างชัดเจนว่าผิดหวังสุดๆ
ร็อบเบน รู้อยู่เต็มอกก่อนเกมแล้วว่าเกมนี้จะเป็นเกมสุดท้ายของเขาในสีเสื้อเนเธอร์แลนด์ และเขาก็ทำมันออกมาได้อย่างเต็มที่สมกับเป็นกัปตันทีมคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมและยิงได้สองประตู แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมทีมจะมีระดับฝีเท้าหรือคลาสบอลห่างชั้นกับเขาเหลือเกิน
เรื่องความใจสู้ของ ร็อบเบน ได้ใจผมไปเต็มๆ และก็เป็นไปตามคาดหลังจบเกม ร็อบเบน ได้ประกาศอำลาทีมชาติอย่างเป็นทางการฝากผลงานทั้งหมดตั้งแต่ปี 2003 ไว้ที่ 96 นัดยิงได้ 37 ประตู พร้อมกับเสียงปรบมือกึกก้องจากแฟนบอลที่มอบให้กับตำนานของพวกเขา
การอำลาทีมชาติไปของร็อบเบน ผมก็ยังมองไม่ออกเลยว่าจะมีใครก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของทัพกังหันแทนได้ดีเทียบเท่าปีกรายนี้ ซึ่งคงต้องใช้เวลามากพอสมควรไม่รู้อีกกี่ปีที่ทัพกังหันจะฟื้นคืนชีพกลับมาผงาดโลดแล่นในวงการลูกหนังอีกครั้ง..
~~บอล คอนโด~~