หน้าแรกแกลเลอรี่

ชี้ชะตาช้างศึก

โจโจ้

23 ก.ย. 2566 04:40 น.

ทัพไทยออกสตาร์ตช่วงชิงเหรียญทอง ในศึกเอเชียนเกมส์ หนที่ 19 “หางโจวเกมส์” อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะไป สิ้นสุดวันสุดท้าย 8 ต.ค. งานนี้จะได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ต้องติดตามแบบ ห้ามกะพริบตา

ซึ่งไฮไลต์แรกที่แฟนชาวไทยทุกคนติดตามคงไม่พ้น “ช้างศึกจูเนียร์” ที่จะลงนัดชี้ชะตาเข้าฟุตบอลชายเอเชียนเกมส์ 2022 กับ “คูเวต” วันนี้ (24 ก.ย.)

ถ้าดูตามหลักเกณฑ์ที่ช้างศึกจะเข้ารอบไม่ใช่ เรื่องใหญ่โต หรือสาหัส บอกเลยโอกาสความเป็น ไปได้มีสูงมาก เพราะขอแค่เสมอก็น่าจะเพียงพอต่อการเข้ารอบ

ตรงข้าม ถ้าหากพลาดท่าปราชัย ก็มีอันต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋ากลับบ้านทันทีเช่นกัน ส่งกำลังใจไปเชียร์กันครับ ทางช่องพีพีทีวี ยิงสดให้ชม และเชียร์ เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป

เช่นเดียวกับ “ชบาแก้ว” ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่จะประเดิมสนามนัดแรกกับอินเดียในวันเดียวกัน จะว่าไปแล้วไม่ใช่ของยากจนเกินไป ดูตามโหงวเฮ้งแล้ว ชบาแก้วน่าจะดีกว่า เพราะ “บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีลุ้นถึงเหรียญชัวร์

พูดถึงเป้าหมายหรือความหวังของทัพไทยใน “หางโจว” หนนี้ แม้การประเมินของการกีฬาไทย แห่งประเทศไทย หรือ กกท.ในช่วงก่อนที่จะถึงสังเวียน จริง 3 เดือน ต่างมั่นใจว่าต้องมีถึง 23 เหรียญทอง ขณะที่มีตเดอะเพรสของสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬา แห่งประเทศไทย ที่เคยฝากประเมินผลงานในซีเกมส์และยอมรับว่ามีความใกล้เคียงที่สุดเหลือเพียง 15 เหรียญทองเท่านั้น

ถ้าให้ชำแหละสมาคมความหวังอย่างหมดเปลือก บอกเลยโอกาสที่จะถึง 23 ทอง ไม่ใช่ง่ายเลย แม้เรา เคยคว้ามาแล้วถึง 24 ทอง ในเอเชียนเกมส์ที่ไทย

แต่อย่าลืมว่าขนาดแข่งในบ้านเราเองยังได้มา แค่ 24 เหรียญทองเท่านั้น

เอาแบบตรงไปตรงมาไม่มีอวยใคร นับตั้งแต่วันนั้นจวบจนวันนี้รวมถึงผลงานล่าสุด ทัพไทยยังไม่เคยปีนป่ายไปถึง 20 เหรียญทองเลยสักครั้งเดียว ยิ่งถ้าพูดถึงการพัฒนาขีดความสามารถด้วยแล้ว เชื่อว่า เรายังเป็นรองทุกชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญในเอเชียแน่นอน

ความหวังหลักๆที่แท้จริงพอจะนับได้ คงไม่พ้น เทควันโด กรีฑา ตะกร้อ มวย และแบดมินตัน รวมถึง ยังมีอีกประปรายหลายกีฬา ลดหลั่นกันลงไปก็ตาม

นับไปนับมาหลายรอบเชื่อว่ายังไงก็ไม่ถึง 23 เหรียญทอง

ไม่ใช่จะดูถูก แต่เทียบหรือดูจากสถิติตามเนื้อผ้าแล้วไม่น่าผิดพลาดไปจากนี้ เอาแค่มวยที่ กกท.หวังไว้ ถึง 5 ทองยังเหลือแค่ 1 ทอง ทั้งนี้ เพราะเมื่อวิเคราะห์อย่างถ่องแท้ คู่แข่งที่เป็นมหาอำนาจของมวยดันมาอยู่ ในเอเชีย ไม่ใช่คิวบาเหมือนเมื่อก่อน

จึงทำให้จำนวนความหวังของมวยสากลลดลงไป ถ้าเป็นเมื่อก่อนคิวบาคือเบอร์ 1 ทำให้ในระดับเอเชียเรายังพอได้ลุ้นเหมือนเมื่อคราวที่เคยกวาดอย่างหนักหน่วงเป็นกอบเป็นกำในเอเชียนเกมส์ที่ไทย

ยังไม่รวมอีกหลายชนิดกีฬาที่เชื่อว่าเจ้าภาพจีน ยังอุบไต๋ไม่ยอมให้ใครเห็นในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ นี่ยังไม่นับญี่ปุ่นและเกาหลี ฯลฯ

เอาเถอะครับแม้อาจจะไม่ได้ตามเป้าหมายขอแค่ทุกคนทำอย่างสุดความสามารถ มีสถิติที่ดีกว่าตอนซ้อมแสดงให้เห็นถึงการพัฒนามากขึ้นกว่าเดิมก็ไม่น่าเสียใจ

เพราะกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว.

โจโจ้

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม