ไทยรัฐฉบับพิมพ์
แม้ว่าจะผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้ว
แต่ถ้าไม่เอ่ยถึงบทสรุปในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อระหว่างวันที่ 18 ส.ค.-2 ก.ย.ที่ผ่านมา เลย คงกระไรอยู่
ครั้งนี้ทัพนักกีฬาไทยเข้าร่วมแบบจัดเต็ม มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ถึง 813 คน แข่งขันใน 40 ชนิดกีฬา ครบทุกชนิด และยังรวมถึงอีก 2 กีฬาสาธิต ที่เจ้าภาพบรรจุไว้ด้วย
ภายใต้งบประมาณเตรียมและส่งนักกีฬากว่า 800 ล้านบาท
ส่วนอันดับ 1 นักกีฬาเจ้าภาพอินโดนีเซีย ส่งมากที่สุด 943 คน และอันดับ 2 เป็นจีน 865 คน
ก่อนเดินทางคณะกรรมการเตรียมนักกีฬา ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาคมกีฬา ตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้ที่ 17 เหรียญทอง
แต่ก็มีเรื่องสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น คู่แข่ง การแบ่งสาย เป็นต้น เป็นปัจจัยสำคัญ หักค่าความเสี่ยงแล้วเป้าจริงๆอยู่ที่ 13–15 เหรียญทอง
สำหรับผลงานครั้งนี้ของทัพไทย ปรากฏว่า ทำได้ 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง
เฉพาะเหรียญทอง เริ่มได้จากวันที่ 19 ส.ค. เทควันโด พุมเซ่ หรือท่ารำ ทีมหญิง เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล, อรนวีย์ ศรีสหกิจ และกชวรรณ ชมชื่น
วันที่ 22 ส.ค. กีฬาทางอากาศ หรือร่มร่อน ที่ถูกบรรจุชิงชัยเป็นครั้งแรกในเอเชียนเกมส์ ทีมไทยทำสำเร็จคว้าเหรียญทองบินลงเป้าแม่นยำ ทีมหญิง นันท์ณภัส ภุชฌงค์, จันทิกา ใจสนุก และนฤภร วาทะยา วันเดียวกันตะกร้อทีมชุดชายและหญิงของ ไทยก็คว้าเหรียญทองที่ 3 และ 4 ตามลำดับ
วันที่ 23 ส.ค. กีฬาทางอากาศ คว้าเหรียญทองที่ 2 เพิ่มอีกจากบินลงเป้าแม่นยำ บุคคลหญิง จาก นันท์ณภัส ภุชฌงค์ และต่อด้วยเทควันโด พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ต่อสู้รุ่น 49 กก.หญิง เป็นเหรียญทอง ที่ 2 ของเทควันโดเช่นกัน
วันที่ 25 ส.ค. เจ็ตสกี คว้าเหรียญทองจาก อรรถพล คุณสา เจ็ตสกีนั่ง รันอะเบาต์ 1,100 สต๊อก ห้ามแต่งเครื่องยนต์ ส่วนเหรียญทองที่ 8 เป็นตะกร้อ คู่ทีมชุดชาย ซึ่งทีมนี้มีพรชัย เค้าแก้ว ที่ตอกย้ำประวัติศาสตร์ให้ตนเอง กวาดเหรียญทองตะกร้อไปมากที่สุด ทำไปคนเดียว 10 เหรียญทองเข้าให้แล้ว
วันที่ 26 ส.ค. สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักยิงเป้าบินหญิงไทย คว้าเหรียญทองได้บ้าง จากสกีตหญิง เป็นเหรียญที่ 9 ของทัพไทย
วันที่ 31 ส.ค. จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นหนุ่มอนาคตไกล มาแบบเงียบๆ ได้เหรียญทองลู่ คิรินชาย
และวันที่ 1 ก.ย. ปิดท้ายเหรียญทองที่ 11 จากตะกร้อหญิง 4 คน เป็นเหรียญทองที่ 4 ของตะกร้อไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ หากแยกเป็นรายชนิดกีฬาของไทย เรียงตามลำดับเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง มีดังนี้ กรีฑา 0-3-1, บาสเกตบอล 3 คน 0-0-1, แบดมินตัน 0-0-1
บริดจ์ 0-1-1, มวยสากลสมัครเล่น 0-1-5, จักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ 0-1-0, จักรยาน เสือภูเขา 0-1-2, จักรยาน ถนน 0-0-1, จักรยาน ลู่ 1-0-0
เรือแคนู/คยัค สปรินต์ 0-0-2, เรือแคนู/คยัค สลาลอม 0-0-2, ขี่ม้า 0-0-2, ยูยิตสู 0-0-1, เจ็ตสกี 1-2-2, ยูโด 0-0-2, คาราเต้ 0-0-1,กาบัดดี้ 0-0-1
พาราไกลดิ้ง หรือกีฬาทางอากาศ (ร่มร่อน) 2-1-1, ปันจักสีลัต 0-2-5, เรือพาย 0-0-3, เรือใบ 0-0-3, เซปักตะกร้อ 4-0-0, ยิงปืน- ยิงเป้าบิน 1-1-0
เทนนิส 0-1-0, เทควันโด 2-0-2, วอลเลย์บอล (ในร่ม) 0-1-0, ยกน้ำหนัก 0-1-6 และวูซู 0-0-1
ส่วนจีนเป็นเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 10 ทำไป 132 เหรียญทอง 92 เหรียญเงิน 65 เหรียญทองแดง อันดับ 2 ญี่ปุ่น 75 เหรียญทอง 56 เหรียญเงิน 74 เหรียญทองแดง อันดับ 3 เกาหลีใต้ 49 เหรียญทอง 58 เหรียญเงิน 70 เหรียญทองแดง และอันดับ 4 เป็นของอินโดนีเซีย ทำไป 31 เหรียญทอง 24 เหรียญเงิน 43 เหรียญทองแดง
เรียกว่า ผลงานทัพไทยต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้!!!
หลายกีฬาสำคัญพลาดหวังไป ยังรวมถึงกีฬาใหญ่อย่างฟุตบอลชาย ช้างศึกก็มากระเด็นตกรอบแรก ขณะที่เวียดนามเพื่อนบ้านอาเซียน เข้าถึงรอบรอง ชนะเลิศ จบอันดับ 4 ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบเข้าไปอีก
คำถามสำคัญ จากนี้จะทำอย่างไรกันต่อไป!!!
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่าย กีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า ผลงานที่ออกมาในครั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ตามเป้าหมาย แต่ถือว่าใกล้เคียงกับที่หวังไว้
“ในภาพรวม ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ตามเป้า แต่ถ้าลงลึกรายละเอียด หลายสมาคมกีฬาทำได้ดี เช่น กรีฑาหน้าใหม่ แต่ผลงานน่าพอใจ รวมไป ถึงกีฬาทางอากาศ และเจ็ตสกีก็ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีวอลเลย์บอลหญิงที่เข้าชิงชนะเลิศ และได้เหรียญเงินเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่อีกหลายสมาคมก็พลาดไป ตรงนี้ต้องมาพูดคุยกัน นอกจากนี้ สิ่งที่เราต้องมาทบทวนคือ ปัจจุบัน เจ้าภาพมหกรรมกีฬาสามารถเลือกกีฬาบรรจุแข่งได้ ดังนั้น การเตรียมนักกีฬาจากนี้ไป ต้องพร้อมทุกกีฬาจริงๆ” นายณัฐวุฒิกล่าว
ถือว่ารวมๆแล้วการได้ 11 เหรียญทองกลับมา เลือดตาแทบกระเด็นกันเลยทีเดียว ไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามไปได้ เป็นบทเรียนที่สำคัญและล้ำค่าอย่างยิ่ง ประสบการณ์ที่นักกีฬา เจ้าหน้าที่ไปเจอมา จงเก็บไว้เป็นข้อมูล ข้อเตือนใจ
ที่ได้เหรียญมาก็อย่าประมาทจนเกินไป ส่วนผู้พลาดหวัง ต้องนำความผิดหวังเก็บไว้เป็นแรงขับเคลื่อนต่อไป
เจ็บแล้วต้องจำ เพื่อวันหน้าที่ดีกว่าเดิม...
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง