หน้าแรกแกลเลอรี่

โอกาสครั้งสุดท้าย

มะระหวาน

28 ม.ค. 2565 04:40 น.


หากจะเอ่ยถึงนักฟุตบอลที่ยียวนกวนประสาท และอินดี้แบบสุดๆ เชื่อว่าหลายๆคนคงนึกถึง มาริโอ บาโลเตลลี กองหน้าชาวอิตาเลียนที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับอดานา เดมีร์สปอร์ ทีมในลีกตุรกี

กองหน้าวัย 31 ปีก่อนหน้านี้เคยถูกตั้งความหวังให้เป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของอิตาลี เพราะนับตั้งแต่หมดยุคของฟิลิโป อินซากี, อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร, คริสเตียน วิเอรี รวมถึงฟรานเชสโก ต็อตติ ทัพ “มะกะโรนี” ก็แทบจะหากองหน้าดีๆ ไม่ได้เลย จนกระทั่ง “บาโลเตลลี” ฉายแสงขึ้นมา

“บาโลเตลลี” แจ้งเกิดกับอินเตอร์ มิลาน ตลอด 3 ซีซัน เฉพาะในลีกยิงไป 20 ประตูจาก 59 นัดที่ลงสนาม จนทำให้โรแบร์โต มันชินี กุนซือ ชาวอิตาเลียน ที่คุมแมนฯ ซิตี้ ในตอนนั้นก็ได้ดึงตัวของ “เกรียนโอ้” ไปร่วมทีม ตอนแรกก็ดีสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม 2 ฤดูกาลแรกลงไป 40 นัดในลีกยิงได้ 20 ประตู ถือว่าเป็นผลงานที่ไม่เลว

กับลีกที่เรียกว่าเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอีกลีก

แต่ยิ่งอยู่เกรียนเริ่มแตกจนสุดท้าย บาโล ถึงขั้นมีเรื่องกับกุนซือของทีมอย่าง โรแบร์โต มันชินี คนชาติเดียวกันจนต้องโดนขายทิ้งออกจากทีมไปให้กับเอซี มิลาน

มีที่ไหนเป็นนักเตะแต่ไปหาเรื่องวางมวยกับกุนซือของทีมถ้าไม่ใช่ “เกรียนโอ้” ก็ทำไม่ได้!!

จากนั้นก็ย้ายมาโชว์ฝีเท้าที่เอซี มิลาน 2 ปีถือว่ายอดเยี่ยมลงเล่นไป 43 นัดยิงไป 26 ประตู จากนั้นก็ระหกระเหินย้ายมาเล่นให้กับลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ได้ปีเดียวก็ย้ายไปเล่นให้กับนีซ ที่ลีกเอิง ซึ่งที่แดนน้ำหอม “โอ้” ก็เริ่มฉายแววใน 2 ฤดูกาลแรก (อีกแล้ว) ลงเล่นไป 51 นัด ยิงไป 23 ประตู

แต่พอเข้าซีซันที่ 3 ก็เกรียนแตกมีปัญหากับโค้ชอย่างปาทริค วิเอรา ทำให้โดนขายทิ้งอีกครั้งจนต้องย้ายมาอยู่กับมาร์กเซย ยิงไป 8 ลูกจาก 15 นัด แต่พอจบฤดูกาลก็ต้องระเห็จระเหินอีกครั้งคราวนี้อยู่ที่ไหนก็ได้แค่ซีซันเดียวไม่ว่าจะเป็นเบรสชา หรือมอนซา ทีมในซีรีบี

ด้วยวีรกรรมที่มากมายไม่ว่าจะเป็นทะเลาะกับโค้ช, โชว์ลีลาเหนือชั้นโดยไม่จำเป็น, แกล้งคนอื่น (ปาลูกดอกใส่เด็กเยาวชนหลังโดนดร็อปเป็นสำรอง) หรือสร้างปัญหานอกสนาม เช่น เอาถังดับเพลิงไปฉีดใส่ผู้หญิง, โดนตำรวจเรียกหลังขับรถวนดู “คุกสตรี” ในอิตาลี, ใช้สเปรย์ฉีดจุดไฟในห้องพัก, จุดพลุเล่นจนเกือบไฟไหม้บ้าน

เรียกได้ว่าวีรกรรมของ “เกรียนโอ้” นั้นมากมายเหลือเกินจนต้องร้อง เฮ้ออออออ

แต่ในฤดูกาลนี้ มาริโอกลับมาโชว์ฟอร์มสวยสดงดงามอีกครั้งให้กับต้นสังกัดใหม่อย่าง อดานา เดมีร์สปอร์ ทีมในลีกตุรกี และลงเล่นในลีกไป 19 นัด ยิงได้ 8 ประตู แถมยังทำ 5 แอสซิสต์อีกด้วย จากฟอร์มดังกล่าวได้เตะตา มันชินี กุนซือทีมชาติอิตาลีที่เกือบจะฟาดปากกันมาติดทีมชาติอีกครั้งในรอบ 3 ปี แม้ว่าจะเป็นแค่การร่วมกลุ่มซ้อมก็ตาม

แม้ว่าหลายคนจะค่อนขอด “มันโช่” ว่าไม่มีตัวเลือกในแดนหน้าแล้วต้องหวังพึ่งบาโลเตลลีมาใช้งาน

แต่เอาเข้าจริงๆ แดนหน้าของอิตาลียุคนี้ก็ไม่ได้มีใครฉายแววให้โดดเด่นเลย ดีสุดก็คือชิโร อิมโมบิเล ดาวยิงจากลาซิโอ ที่เหลือก็ยังไม่เวิร์ก

การได้บาโลเตลลีมาทำให้แนวรุกอิตาลี จะดูน่ากลัวขึ้นทันที ดาวยิงวัย 31 ปีไม่ใช่ไม่ดีนะจริงๆแล้วทักษะฝีเท้าและการจบสกอร์นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ แต่แค่มีปัญหาเรื่องส่วนตัวและอารมณ์ศิลปินที่ทำให้ชีวิตพังจนถึงบัดนี้

เชื่อว่าถูกเรียกกลับมาติดทีมชาติครั้งนี้จะต้อง ทำเต็มที่เพื่อที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมจนกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในเกมเพลย์ออฟฟุตบอลโลก 2022 ที่จะดวลกับนอร์ท มาซิโดเนีย ในวันที่ 24 มี.ค.นี้

เพราะหลังจากนี้ไปจะมีโอกาสถูกเรียกติดทีมชาติอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้!!

มะระหวาน