ท้องหรือไม่ท้อง เป็นความกังวลสำหรับคนอยากมีลูกที่เฝ้ารอ ท้องแรกสาวๆ อาจจะยังไม่รู้ว่าอาการคนท้องเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ร่างกายเปลี่ยนแปลงมากหรือน้อยแค่ไหน หากคุณกำลังกังวลใจอยู่ มาดูอาการคนท้องตั้งแต่สัปดาห์แรกกัน
การตั้งครรภ์ เป็นความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับร่างกายผู้หญิง เมื่อไข่ตกและได้รับการปฏิสนธิแล้ว บางคนไม่มีอาการทางร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย หรือสังเกตเห็นอีกทีก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลง ก็จะพบอาการคนท้องต่างๆ ดังนี้
ช่วงเวลาสัปดาห์แรก อาการคนท้องจะยังไม่ชัดนักแต่ก็พอสังเกตได้ หากคนที่ท้อง 2 - 3 จะพอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง การใช้ที่ตรวจครรภ์อาจจะตรวจพบในสัปดาห์ที่ 4 เป็นต้นไป แม้ว่าจะขึ้นขีดสีจาง แต่จางแค่ไหนก็แปลว่าท้องแน่ๆ
ใครว่าอาการคนท้องเริ่มแรกไม่ออกอาการ หากคุณติดตามประจำเดือนทุกเดือน จะพบสิ่งที่เปรอะกางเกงชั้นใน ที่เรียกว่า “เลือดล้างหน้าเด็ก” จะมีลักษณะเป็นสีคล้ำกว่าเลือดประจำเดือน และแห้งกว่า สีชมพูไปจนถึงเหมือนช็อกโกแลต หากไม่ทันสังเกตก็จะไม่ทราบ ส่วนใหญ่นึกว่าเป็นเลือดประจำเดือน
ช่วงหลังมื้ออาหาร ว่าที่คุณแม่จะเกิดอาการง่วงแบบอยากหลับไปเลย ช่วงนี้จะทำให้ Working Woman เข้าใจผิดว่าง่วงแล้วไปหากาแฟมากิน แนะนำให้สาวๆ ที่อยู่ในระหว่างรอตั้งครรภ์ เลือกเครื่องดื่มที่มีปริมาณกาเฟอีนน้อย หรือใช้วิธีอื่นให้ตัวเองตื่นตัว หากง่วงมากจริงๆ ให้เอนหลับ 5 - 15 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี ความง่วงเป็นอาการคนท้องที่ฟื้นไม่ได้ และระมัดระวังเมื่อต้องขับรถระยะไกล
ความเมื่อยล้าต่างจากง่วงคือ รู้สึกไม่สบายตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดเนื้อปวดตัวจนคิดว่าตัวเองป่วย ซึ่งมาจากร่างกายกำลังปรับตัวให้ขยายออกมากขึ้น นำไปสู่อาการบวมในลำดับถัดไป แนะนำว่าการออกกำลังกายช่วยได้
อย่างที่ทราบกันว่า คนท้องจะดูมีน้ำมีนวล หรืออาการ “ตัวบวม” เกิดจากเส้นเลือดดูดซึมสารอาหารไปสู่ร่างกายของคุณและทารกมากขึ้น จะเริ่มบวมตั้งแต่ช่วงแรกๆ จนถึงคลอด แต่บางคนบวมมาก บวมน้อยไม่เหมือนกัน
ผ่านสัปดาห์แรกๆ มาแล้ว หากคุณทราบว่าท้อง อาจจะรอจนถึง 3 หรือ 4 สัปดาห์แล้วค่อยไปฝากครรภ์ คุณหมอสูตินรีจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ อาหารเสริมและวิธีการดูแลตัวเอง อาการที่เกิดขึ้นในสัปดาห์แรกก็ยังเป็นอยู่ และจะมีอาการเพิ่มเติมดังนี้
ตอนเช้าตื่นมา คุณจะทรมานมากที่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาเจียน ซึ่งบางทีก็ไม่มีอาหารใดๆ ออกมา แค่อยากจะอ้วกให้กระเพาะอาหารหรือหลอดอาหารเขยื้อนตัวได้ดีขึ้น (บางทีเรียกว่าอ้วกลม) อาการอ้วกนี้บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็น มาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนระหว่างคุณกับลูกที่พยายามปรับตัวเข้าหากัน
เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด เป็นสาเหตุมาจากฮอร์โมนในร่างกายปรับตัวเพื่อให้คุณแม่มีสารอาหารสะสมเพื่อลูกมากขึ้น ดังนั้นว่าที่คุณแม่ต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในช่วงนี้ เพื่อส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการทางสมองของลูก
นอกจากความล้าแล้ว ว่าที่คุณแม่อาจมีอาการปวดหัวในช่วงการตั้งครรภ์แรกๆ บอกไม่ได้ว่าอาการปวดจะมาเมื่อไหร่ ดังนั้นต้องลดสาเหตุของความเครียด และจัดการงานส่วนต่างๆ ให้ผ่อนคลายลงมากขึ้น
อายุตั้งครรภ์ประมาณ 4 - 5 สัปดาห์เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของร่างกายบางอย่าง แต่อาการที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่แรกก็ยังอยู่ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ช่วงนี้คู่รักอาจหงุดหงิดใส่กันแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สาเหตุมาจากว่าที่คุณแม่เกิดการหงุดหงิด ผิดที่ผิดทาง ผิดหูผิดตาไปหมด เกิดจากฮอร์โมนภายในร่างกายคุณแม่ที่ปรับระดับขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งจะดีขึ้นภายหลังไตรมาสแรกแล้ว
บางอย่างที่ไม่เคยเหม็นก็อาจจะเหม็น เช่น เหม็นสบู่สามี เหม็นน้ำหอม เหม็นดอกไม้ ซึ่งเกิดจากการรับกลิ่นผูกกับเซลล์รับกลิ่นที่เปลี่ยนแปลงจากการขยายของหลอดเลือด ทำให้การแปลกลิ่นผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น
นอกจากการรับกลิ่นที่ไม่เหมือนเดิม การรับรสก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ไม่ได้เหมือนละครที่อยากกินของเปรี้ยวตลอดเวลา บางคนติดของหวาน ดังนั้นต้องกำหนดการกินอาหารให้ครบหลักโภชนาการ จะเลือกกินที่ชอบไม่ได้ แต่สาวๆ บางคนแพ้ท้องกินอะไรไม่ได้เลย อ้วกออกหมด จนน้ำหนักลดผิดปกติ ต้องปรับตัวหาสิ่งที่เรากินได้ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดสารอาหาร
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความเชื่อของคนไทยอย่างเดียว มีผลวิจัยจากต่างประเทศพบว่าคุณแม่ชาติอื่นก็ฝันเหมือนกัน อาจจะเป็นฝันดี หรือฝันร้ายกว่าที่เคย เกิดเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนความสุข และอารมณ์ ทำให้เกิดจินตนาการถึงเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในความคิดมาก่อน
ช่วงระยะเวลาตั้งครรภ์ประมาณ 8 - 9 สัปดาห์ จะออกอาการที่บ่งบอกว่าท้องแล้วมากขึ้น หากสงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือเปล่าก็รีบใช้ที่ตรวจครรภ์เช็ก และรีบบอกกับคนใกล้ตัว เพื่อที่ว่าจะได้ช่วยดูแลกัน เนื่องจากคนท้องมักมีอาการมึนหัวตอนตื่นนอนกันมากขึ้น
เมื่อร่างกายว่าที่คุณแม่สร้างและสะสมพลังงานมากขึ้น ก็เกิดการขับของเสียออกทางเลือดเยอะขึ้น ดังนั้นช่วงนี้คุณจึงต้องลุกไปห้องน้ำบ่อยเป็นพิเศษ ทั้งกลางวันและกลางคืน จนอาจทำให้กลางคืนนอนไม่พอ
ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Morning sickness เพราะหลังตื่นนอนตอนเช้าจะมีอาการมึนหัว ซึ่งคุณต้องค่อยๆ ปรับตัว ลุก และเดินให้ช้าๆ จะได้ไม่ล้ม ในว่าที่คุณแม่ที่มีอาการมึนหัวตอนเช้าหนักมากคุณหมอจะให้ยาแก้อาการวิงเวียนไว้กินตั้งแต่ก่อนนอน เพื่อตื่นมาจะได้ไม่วูบ
อาการท้องผูกไม่ได้มาจากกินเยอะ แต่มาจากการปรับตัวของร่างกายที่ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น การรับประทานผักผลไม้ และดื่มน้ำเยอะๆ ช่วยได้มาก
อาการนี้บางคนก็เป็น บางคนก็ไม่เป็น แต่เมื่อเลือดออกจมูกเยอะมาก จะทำให้คุณตกใจได้ สาเหตุเกิดมาจากเส้นเลือดฝอยขยายตามร่างกาย โดยเฉพาะในโพรงจมูก และตามเหงือก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนท้องที่จะพบเลือดออกบ้าง ระวังอย่าให้แผลติดเชื้อ
สุดท้ายนี้หากพบว่าตัวเอง ตั้งครรภ์ ว่าที่คุณแม่ต้องดูแลตัวเองตั้งแต่สัปดาห์แรกไปจนถึงตอนคลอดและให้นม อาหารต่างๆ จะผ่านจากเลือดของคุณสู่เลือดของลูก เพราะฉะนั้นนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ยังต้องดูแลกันไปอีกยาวๆ ค่ะ