คลิปที่กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล คุณตาวัย 65 ช่วยชีวิตลูกแมวจากเงื้อมมืองูเหลือมที่รัดแน่น จนน้องแมวมีอาการช็อก แต่คุณตาใช้ทักษะการปั๊มหัวใจที่ดูจากโลกโซเชียล ช่วยจนรอดชีวิต ท่ามกลางความชื่นชมของผู้ที่เข้ามาพบเห็นคลิปจำนวนมาก
กลายเป็นคลิปที่ได้รับความชื่นชมบน TikTok เมื่อผู้ใช้ชื่อว่า pumpim.siriwan ปุ๋มแม่ค้าสายแร็พ โพสต์คลิปวินาทีช่วยลูกแมว ที่ถูกงูเหลือมรัด จนอ้าปากค้างเกือบไม่รอดชีวิต โชคดีที่คุณตามาช่วยปั๊มหัวใจจนสัญญาณชีพกลับมา และตระเวนพาแมวไปหาเจ้าของในหมู่บ้าน โดยมีผู้กดไลค์กว่าสองหมื่นคน คอมเมนต์กว่าแปดร้อยคน ส่วนใหญ่แสดงความชื่นชมคุณตา และถามถึงที่มาของการช่วยชีวิต
ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยังลูกสาวของคุณตาเข็มเพชร จันทะเดช อายุ 65 ปี เปิดเผยว่า เมื่อวาน 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยความที่หลังบ้านย่านลาดกระบัง กรุงเทพฯ เป็นป่า และมีเสียงแมวร้อง แม่เลยเดินเข้าไปดู เพราะนึกว่าแมวกัดกัน พอไปถึงต้นเสียงก็เห็นงูเหลือมขนาดเท่าขากำลังรัดน้องแมวอยู่ คุณพ่อเลยพยายามใช้ไม้ไล่งูเหลือมให้คลายรัดจากตัวน้องแมว แต่ก็ค่อนข้างเสี่ยงมาก เนื่องจากงูเหลือมเกือบจะกัดอยู่หลายที โดยเฉพาะคุณแม่ที่เฉียดเกือบโดนกัด ดีที่หลบทัน
...
พอไล่งูเหลือมไปได้ คุณตาก็รีบเข้าไปดูน้องแมว พบว่ามีอาการหายใจเร็ว ลักษณะช็อก ตาค้าง น้ำลายเต็มปาก คนในบ้านตอนนั้นก็ตกใจหลายคนทำอะไรไม่ถูก แต่คุณตาพอเห็นอาการน้องยังหายใจอยู่ เลยพยายามปั๊มหัวใจน้อง ใช้เวลากว่า 5 นาที น้องจึงเริ่มมีอาการเป็นปกติ
“พ่อมีอุปนิสัยรักแมว ชอบเก็บแมวจรมาเลี้ยงที่บ้าน แต่แมวที่ถูกงูรัด เป็นแมวจากข้างบ้าน โดยคุณพ่อเรียนรู้การปั๊มหัวใจช่วยชีวิตแมวมาจากติ๊กต่อก แกบอกว่าการปั๊มหัวใจแมวตัวเล็ก ใช้แค่มือเดียว แต่ถ้าเป็นคนต้องใช้สองมือ แล้วค่อยๆ ใช้มือกดลงบนหน้าอกตามจังหวะ ถ้าแมวไม่อ้าปาก ก็ต้องเป่าปากแมว ให้น้องอ้าปาก ถึงจะช่วยชีวิตน้องได้ ประกอบกับคุณพ่อชอบดูคลิปสารคดีสัตว์”
ช่วงวินาทีชีวิต พ่อใช้เวลาปั๊มหัวใจน้องอยู่นาน จนดวงตาน้องกะพริบ เลยอุ้มขึ้นมา หลังจากนั้นน้องก็เริ่มได้สติดีขึ้น และเริ่มส่งเสียงร้อง จากนั้นพ่อก็อุ้มไปใส่กล่อง แล้วขับรถมอเตอร์ไซค์ตระเวนหาเจ้าของแมว แต่ก็ไม่เจอ พอปล่อยน้องหลังจากกลับมาบ้าน ก็เริ่มลุกวิ่งเล่นได้ปกติ และกลับไปบ้านอย่างปลอดภัย จนมารู้ที่หลังว่าเจ้าของแมวเพิ่งย้ายมาใหม่ในย่านนี้ ได้ขอบคุณพ่อที่ช่วยชีวิตน้อง
พ่อช่วยชีวิตน้อง แล้วให้แมวพักประมาณครึ่งชั่วโมง จากนั้นน้องก็เริ่มดีขึ้น วิ่งกลับไปบ้านได้ ซึ่งถ้านับรวมเวลาทั้งหมดที่ช่วยน้องประมาณ 1 ชั่วโมง
“หนูอยู่ในเหตุการณ์ตอนพ่อช่วยชีวิตน้องแล้วฟื้น ทุกคนในบ้านดีใจมาก เพราะพวกเราคิดว่าน้องต้องตายแน่ๆ หรือไม่ขาต้องหัก อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ แต่พอเห็นน้องกลับมาวิ่งได้ก็รู้สึกมีความสุขมาก”
ตอนท้ายการสัมภาษณ์ คุณตาเข็ม กล่าวอย่างดีใจว่า รู้สึกภูมิใจมาก ที่ได้ช่วยชีวิตแมว ช่วงเวลานั้นทุกคนคาดไม่ถึงว่าน้องจะรอดชีวิต แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างเต็มที่ และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาให้กำลังใจในโลกออนไลน์.