แพทย์เผยอาการเด็ก 14 ปี ป่วย "กล้ามเนื้อสลาย" หลังถูกครูลงโทษ สั่งลุกนั่ง 150 ครั้ง เคยมีสารไมโอโกลบิน เพิ่มขึ้น ถึง 8 หมื่นกว่า ต้องรักษาต่อเนื่อง ไม่สามารถระบุวันที่จะหายเป็นปกติได้

จากกรณีที่แม่ได้ร้องขอความเป็นธรรม หลังครูสั่งทำโทษลูกสาววัย 14 ปี ให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้อสลาย ต้องรักษาต่อเนื่องจนกระทบการเรียน แต่โรงเรียนกลับขอให้ปิดข่าว เนื่องจากเสื่อมเสียดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น (แม่ร้อง ลูกสาวถูกครูทำโทษจน "กล้ามเนื้อสลาย" หวั่นพิการ เดินไม่ได้เหมือนเดิม)

ล่าสุด 7 ต.ค. 66 ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดแพร่ และปลัดจังหวัดแพร่ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านน้องบีหลังจากทราบ ที่บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ ขณะกับแม่และน้องชายพิการ 

โดยนายประสิทธิ์ อินวรรณา ผู้อำนวยการ สพม.แพร่ และผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเรื่อง ได้เผยว่า หลังเกิดเรื่องทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน หาข้อเท็จจริง และได้หาทางเยียวยารักษาทั้งทางจิตใจ และการเรียน

...

ซึ่งหากมีวิชาไหนที่สามารถนำงาน มาให้ได้ ก็จะประสานมาให้น้องได้ทำงานที่ค้างไว้ได้ ส่วนเรื่องการติด ร. นั้น ทางโรงเรียนยังไม่มีการออกเกรด เพียงแต่บอกให้นักเรียนที่ขาดส่งงาน ให้ทราบ เบื้องต้นเท่านั้น น้องอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าติด ร. 

ด้านนายแพทย์แสงชัย พงศ์พิชญ์พิทักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสูงเม่น ได้รายงานอาการป่วย และผลการรักษาร่างกายของน้องบีว่า วันที่น้องมาเข้ารับการรักษา มีสารไมโอโกลบิน สูง 4 หมื่น หลังจากรักษาตัวผ่านไป 1 วัน พบว่าเพิ่มขึ้น ถึง 8 หมื่นกว่า

จากนั้นก็รักษาและพักผ่อน ลดการเคลื่อนไหวจนลด แล้วมาอยู่บ้าน แต่ว่าตอนที่น้องไปสอบ เดินขึ้นอาคารชั้น 2 ทำให้อาการกำเริบอีก จึงจะให้มีการบำบัด อาทิตย์ละ 3 วัน และ พักร่างกาย โดยไม่ให้เดินหนักๆ และรักษาต่อเนื่อง เพราะหากจะให้หายต้องใช้เวลา แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า วันไหน เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

ขณะนายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีกับครู ก็ว่ากันไป แต่สิ่งสำคัญในตอนนี้ คือความห่วงใยในสุขภาพของน้อง ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิตใจ ให้หายเป็นปกติโดยเร็ว โดยฝากให้ทางโรงพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด

พร้อมกับขอให้ทางปลัดจังหวัดแพร่ ดูแนวทางด้านการช่วยเหลือในเรื่องของคดี ซึ่งจะมีเงินสงเคราะห์ทางคดี ให้ทางสำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ ดูแลเรื่องสวัสดิการ ด้านการส่งเสริมการมีรายได้ของครอบครัว โดยเฉพาะแม่ของน้องบี ที่ขาดรายได้ในช่วงของการดูแลลูกสาวที่ป่วย

พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ได้มอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวของน้องบี และถุงยังชีพ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้รักษาสุขภาพร่างกายให้หายเป็นปกติสุขต่อไป 

นอกจากระหว่างวันที่มีหน่วยงานต่างๆ เข้าไปสอบถามข้อมูล และพูดคุยกับ ครอบครัวของน้องบี ได้มีเพื่อนร่วมรุ่น แต่คนละห้อง ได้นำน้ำมาเยี่ยมน้อง พร้อมเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองไม่เห็น เพราะอยู่คนละห้อง แต่มาทราบทีหลัง จึงมาเยี่ยม ในส่วนของการลงโทษนักเรียน ของครู ตนเองก็คิดว่า ในโรงเรียนอาจจะมีบ้าง แต่ไม่รุนแรงแบบนี้.