วันนี้ต้องกดไลค์แสดงความชื่นชม สปช.สภาปฏิรูปแห่งชาติ ของ ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ที่มีมติด้วยเสียงท่วมท้น 211 เสียง คัดค้าน 3 เสียง เห็นชอบให้ปฏิรูปการคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามเวลาที่ใช้จริงเป็นวินาที แทนการคิดแบบการเหมาจ่าย หรือปัดเศษวินาทีเป็นหนึ่งนาที ทั้งระบบเติมเงินและระบบรายเดือน
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อทุกวันนี้คนไทยถูกค่ายมือถือคิดค่าโทร.แบบกินเปล่าไปฟรีๆถึง เดือนละ 3,591 ล้านบาท หรือ ปีละ 43,092 ล้านบาท
ผลงานชิ้นนี้ต้องถือเป็น ผลงานชิ้นโบแดง ของ คณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มี คุณสารี อ๋องสมหวัง เป็นประธาน ที่ได้นำผลการศึกษาเพื่อปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอต่อ สปช. โดยยกตัวอย่าง การคิดค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของสหภาพยุโรป ที่มีข้อกำหนดชัดเจน เรื่องการคิดค่าบริการข้ามแดนอัตโนมัติ หรือโรมมิ่ง โดยคิดค่าโทร.ขั้นตํ่าที่ 30 วินาทีแรก จากนั้นตั้งแต่นาทีที่ 31 เป็นต้นไปให้คิดค่าโทร.ตามระยะเวลาที่ใช้งานจริงเป็นวินาทีทั้งหมด
คุณสารี แถลงต่อสภาปฏิรูปว่า จากการสำรวจการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ กสทช. พบว่า ค่าบริการในระบบเติมเงิน เฉลี่ยอยู่ที่ 341 บาทต่อเดือน และ ระบบรายเดือน เฉลี่ยอยู่ที่ 716 บาทต่อเดือน ถ้าเฉลี่ยทั้งสองระบบจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 415 บาทต่อเดือน เมื่อคิดเป็นค่าโทร. ระบบเติมเงินจะอยู่ที่ 1.20 บาท ระบบรายเดือนจะอยู่ที่ 1.70 บาท เฉลี่ยสองระบบค่าโทร.จะอยู่ที่ 1.30 บาท
ค่าความเสียหายของผู้บริโภคคิดกันง่ายๆ หากคิดค่าบริการตามจริงเป็นวินาทีจะช่วยประหยัดค่าโทร.ได้วันละ 1 นาที เป็นเงิน 1.33 บาท 1 เดือนจะประหยัดได้คนละ 40 บาท ประเทศไทยมีโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 94 ล้านเลขหมาย จะประหยัดเงินได้ถึงเดือนละ 3,591 ล้านบาท หรือปีละ 43,092 ล้านบาท
...
หมายความว่า ทุกวันนี้คนไทยเจ้าของโทรศัพท์มือถือ 94 ล้านเลขหมายถูกค่ายโทรศัพท์มือถือคิดเงินค่าโทร.เกินจากที่โทร.จริงเดือนละ 40 บาท หรือปีละ 43,000 ล้านบาท โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไรเลย
เมื่อเห็นข้อมูลจะจะดังนี้แล้ว สปช.จึงลงมติเห็นชอบ 211 เสียง คัดค้าน 3 เสียง ไม่ออกเสียง 7 เสียง เห็นชอบในหลักการให้กำหนดอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามระยะเวลาการใช้งานจริง โดยคิดเป็นวินาที และส่งเรื่องให้ คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ความเห็นชอบเพื่อปฏิรูปกันต่อไป
งานนี้ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ หัวหน้า คสช. และ นายกรัฐมนตรี คงต้องลงนามเห็นชอบอย่างเดียว เพื่อคืนความเป็นธรรมแก่ประชาชน ถ้าเซย์โนเมื่อไหร่ คะแนนนิยมมีหวังตกวูบแน่นอน
สปช. ยังมีมติให้ส่งเรื่องไปให้ กสทช. ที่ละเลยในการปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ทั้งที่เรื่องนี้พูดกันมานานแล้ว ให้ไปใช้อำนาจตามมาตรา 31 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 มีคำสั่งห้ามผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ คิดค่าบริการโดยการปัดเศษวินาทีเป็นหนึ่งนาที เพราะเป็นการค้ากำไรเกินควร ให้คิดค่าบริการตามระยะเวลาการใช้งานจริงเป็นวินาทีเท่านั้น
เมืองไทยมีโทรศัพท์เคลื่อนที่มาตั้งแต่ปี 2529 คิดค่าโทร.อย่างนี้มาตลอด 29 ปีที่ผ่านมา ฟันค่าโทร.ไปฟรีๆไม่รู้กี่แสนล้านบาทแล้ว นี่ยังไม่ได้พูดถึง ระบบ 3 จีไทยที่มีคุณภาพตํ่ากว่ามาตรฐาน แต่ กสทช. ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น
ประเทศเมียนมาร์ เพิ่งจะมี โทรศัพท์ 3 จี ใช้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยมี บริษัทเทเลนอร์ บริษัทแม่ของ ดีแทค เป็นผู้ให้บริการ คนไทยที่ได้ไปใช้บริการ 3 จีเมียนมาร์ ต่างชมเป็นเสียงเดียวกัน “โทร.ชัดเน็ตแรง” ทำไม 3 จีเมืองไทย จึง “โทร.หลุดเน็ตช้า” โหลดแอพยังต้องใช้ไวไฟ สะท้อนถึงคุณภาพคนภาครัฐของไทยได้เป็นอย่างดี.
“ลม เปลี่ยนทิศ”