กกต.โดย แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง รับคำร้องขอให้ กกต. พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคการเมือง ยินยอมให้ อดีต ผู้นำทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ ชี้นำ กรณีการตั้งรัฐบาลในบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งในวันนั้นมีข่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบที่จะให้ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯต่อจากอดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ถึงแม้ต่อมา มติที่ประชุมพรรคเพื่อไทยจะส่ง แพทองธาร ชินวัตร เข้ารับการเสนอชื่อเป็นนายกฯก็ตาม เรื่องนี้มือกฎหมายพรรค รมต.ชูศักดิ์ ศิรินิล อธิบายว่า คำร้องไม่มีมูล ไม่มีการครอบงำ
มีอยู่สองประเด็นที่ตั้งเป็นข้อสังเกต ก็คือเรื่อง คำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยรับเงินบริจาคโดยไม่ชอบ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการขาดคุณสมบัติความเป็น รมว.คมนาคมของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้ กกต.ใช้เวลาในการสอบสวนสืบสวนนานมาก เอาเหตุผลทางบัญชีมาเป็นข้ออ้างคำร้องยุบพรรค ก้าวไกลมาทีหลังแต่ถูกยุบพรรคไปก่อนตั้งนาน และล่าสุดมีข่าวออกมาจาก กกต.ว่า คำร้องยุบพรรคภูมิใจไทยอาจเข้าข่ายไม่มีหลักฐาน ไม่มีมูลในที่สุด ทำให้ แสวง บุญมี ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองและเลขาฯ กกต. ถูกโฟกัสมากที่สุดด้วย
มีกรณีการเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าของ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย อย่างน้อยก็สองครั้งในช่วงของคดีศักดิ์สยามหนึ่งครั้ง และหลังจากเกิด สว.สีน้ำเงินและมีความเห็นที่แตกต่างในนโยบายหลักของรัฐบาลอีกหนึ่งครั้ง เป็นช่วงใกล้กับวันเกิดของครูใหญ่เนวินพอดี พร้อมประโยคเด็ดที่คุ้นหู มันจบแล้วครับนาย อีกรอบ
ถ้าจะวัดบารมีทางการเมืองที่จะเป็นคู่แข่งในตลาดเดียวกันทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย เฉือนกันไม่ลง ที่มองกันว่า เพื่อไทย กับ พรรคประชาชน เป็นคู่แข่งทางการเมือง เป็นเพียงรูปแบบทางทฤษฎี เพราะในความเป็นจริง โอกาสที่ พรรคประชาชนจะเป็นรัฐบาลแทบจะเป็นศูนย์ แค่บ่วงที่ผูกคออยู่ทุกวันนี้ หายใจยังยากเลย นอกจากจะมี สส.เกิน 300 เสียงขึ้นไป แต่สำหรับภูมิใจไทยแล้วมี สส. แค่ 100 เสียง โอกาสที่จะเป็นแกนนำรัฐบาลและขั้วเก้าอี้นายกฯอยู่แค่เอื้อม
...
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะ ครอบงำ ครอบครอง อย่างไรก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เท่ากับการ ครอบคลุม ภูมิใจไทย จับมือกับพรรคการเมืองตั้งรัฐบาลได้ทุกพรรค แต่ เพื่อไทย ไม่สามารถจับมือกับพลังประชารัฐ ไทยสร้างไทย รวมทั้งพรรคประชาชน ตั้งรัฐบาล แม้แต่ภาพการตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ต่างจากพรรคเพื่อไทยไปร่วมรัฐบาลกับภูมิใจไทยด้วยซ้ำ
ที่ต้องตีโจทย์ให้แตกก็คือ การที่ กกต.รับเรื่องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาล เบื้องต้น แปลว่ามีมูล สมมติต้องการจะทำเรื่องนี้ให้จบปัดตกไปพร้อมคดียุบพรรคภูมิใจไทย ถ้าจะใช้ต่อรองก็ต้องส่งเรื่องเข้าอนุกรรมการ กกต.สืบสวนสอบสวน หรือในที่สุดแล้วจะฟันแต่พรรคเพื่อไทยแค่พรรคเดียวก็จะหมดคู่แข่งทางการเมือง
หรือต้องการจะล้างไพ่กันใหม่ทั้งหมด โดยมีนัยสำคัญทางการเมือง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม