"อุตตม" ชี้จีนลดดอกเบี้ยส่งสัญญาณเศรษฐกิจโลกผันผวนเพิ่ม ย้ำรัฐบาลควรปรับแผนใช้จ่ายงบประมาณเพื่อรองรับความเสี่ยง เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้าประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองแข่งขันกันนำเสนอนโยบายด้าน ศก.
เมื่อวันที่ 18 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยระบุว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง มีเหตุผลมาจากการที่รัฐบาลจีนมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ ที่เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวลง โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญหลักของระบบเศรษฐกิจ แน่นอนว่าสัญญาณดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะเงินเฟ้อในขณะนี้ ขณะเดียวกันความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนก็มีท่าทีว่าจะทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีอิทธิพลต่อบรรยากาศการค้าขายและการลงทุน รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม
นายอุตตม ระบุต่อว่า สถานการณ์ดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวถูกคาดหวังว่า จะเป็นหัวจักรฉุดให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวในปลายปีนี้ แต่หากการขยายตัวของทั้งสองภาคเศรษฐกิจนี้ ไม่เป็นไปตามที่หน่วยงานรัฐได้คาดการณ์และประกาศไว้ ประกอบกับเศรษฐกิจภายในยังเปราะบางมาก ก็จะเป็นการยากที่เศรษฐกิจของประเทศไทย จะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและคาดหวังไว้
นายอุตตม ระบุต่อว่า ด้วยเหตุนี้การเตรียมการณ์ล่วงหน้า โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทั้งการเงินและการคลัง จึงเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงนับต่อจากนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยงบประมาณของประเทศจะเป็นเครื่องมือหลักของรัฐบาลในการบริหารเศรษฐกิจ ที่ต้องดูแลทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ รวมถึงการลงทุน การสร้างงาน และกิจกรรมอื่นๆที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าสู่การฟื้นตัวได้อย่างแท้จริง และไม่กลับมาถดถอยเพราะความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าความพยายามในการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ให้ได้ตามเป้าหมายจะเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตามยังคงไม่เพียงพอ ที่จะรองรับกับเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้
...
การทบทวนปรับงบประมาณเพื่อให้รัฐบาลสามารถใช้งบฯ เพื่อบริหารความเสี่ยง และตอบโจทย์ผลักดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ จะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองที่เราเห็นในปัจจุบัน การทบทวนงบประมาณคงเกิดขึ้นได้ยาก หรือแทบจะพูดได้ว่าเป็นไปไม่ได้ หมายความว่าเราคงต้องรอหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการทบทวนงบประมาณ โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่สามารถพลิกผันต่อไปได้อีกอย่างรวดเร็ว
นายอุตตม ระบุอีกว่า ต้องยอมรับว่า วันนี้การเมืองเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดชะตาอนาคตของประเทศ ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึงข้างหน้านี้ ตนเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นพรรคการเมืองแข่งขันกันนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจ ที่มุ่งนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะชะงักงันและก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ไม่น้อยหน้าประเทศอื่นที่เผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจในช่วงสองปีที่ผ่านมาเช่นกัน จากภาพข้างล่างนี้เห็นได้ว่าเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวของจีดีพี ณ สิ้นไตรมาสสองของปีนี้ ต่ำที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งทุกประเทศก็ถูกกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก โควิดฯ และความท้าทายอื่นๆในช่วงสองปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน
"พวกเราคงไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้ยังมีต่อไปในอนาคต และหวังให้ประเทศไทยอยู่แถวหน้าในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงจากภาวะปัจจุบันที่ประเทศกำลังเผชิญนั้น จะเกิดขึ้นได้อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปครับ" นายอุตตม ระบุ