เอาอย่างนั้นเลยหรือ?
เหมือนวัวชนก็อยากจะออกจากคอกไม่มีผิด พลันที่เปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 5 นครปฐม ก็คึกคักทันที เพราะอยากเป็น อยากได้ อยากชนะ
ก็เพื่อมุ่งหวังไปสู่อำนาจ
ดูเหมือนจะมีขุ่นๆในฟากรัฐบาลเมื่อพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลส่งผู้สมัคร 2 คนในสนามเดียวกัน แต่คนละพรรค
ประชาธิปัตย์กับชาติไทยพัฒนาด้วยข้ออ้างที่ต่างกัน ประชาธิปัตย์คงยึดผลคะแนนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเมื่อผู้สมัครแม้จะแพ้ แต่ก็มาอันดับ 2 ก็เลยเอาประเด็นนี้มาเป็นข้ออ้าง เป็นความชอบธรรมที่สมบูรณ์
ชาติไทยพัฒนาก็มีเหตุผลของเขาคือ เป็นพื้นที่ของผู้สมัครซึ่งเคยได้ ส.ส.มาอย่างต่อเนื่อง เพียงแพ้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
คงจะมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่พลาด แก้หน้าสำเร็จ
เลยมีการต่อว่าต่อขานกันถึงขั้นว่าไม่มีมารยาทในการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตัดคะแนนกันเอง ถ้าแพ้จะทำให้เสียงสนับสนุนขาดหายไป แต่อีกฝ่ายบอกว่า ถ้าชนะก็ได้ 1 เสียงเหมือนกัน
ที่ไปไกลหน่อย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเอาชนะเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการประเดิมก่อนที่จะไปชนะเลือกตั้งซ่อมอีกหลายจังหวัด
เป็นทฤษฎี “โดมิโน” เพื่อเปลี่ยนรัฐบาลได้
ความหมายก็น่าจะเป็นว่า หากพรรคฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งซ่อมได้ทั้งหมด ย่อมหมายถึงว่าเสียงสนับสนุนจะชนะฝ่ายรัฐบาล
เท่ากับว่ารัฐบาลต้องพ่ายแพ้ไปโดยปริยาย เปลี่ยนนายกฯ เปลี่ยนรัฐบาล จะได้มีโอกาสเข้าไปสวมอำนาจแทน
หรือ “ยุบสภา” จัดสำรับกันใหม่ ก็เท่านี้...
เพราะนั่นเป็นทางออกด้วยวิถีทางการเมืองที่ไม่ผิดกติกาที่ว่ากันเป็นยกๆไป หลังการดำเนินการที่ผ่านมายังไม่ประสบผลสำเร็จ
...
ไม่ว่าจะเป็นกรณีอภิปรายทั่วไป คุณสมบัตินายกฯ เลือกตั้งซ่อมเป็นอีกวิถีทางหนึ่งเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้อย่างนั้นก็พอวัดได้ว่าประชาชนหันมาทางนี้มากกว่าฝ่ายรัฐบาล
เท่ากับชนะทั้งในสภาและนอกสภาไปพร้อมๆกัน
แน่นอนว่า ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเองนั้น อยู่ในท่ามกลางขัดแย้งลึกๆ ทำให้ความเป็นเอกภาพและสถานภาพไม่มั่นคงนัก
ต้องดูศึกใหญ่ครั้งต่อไปคือการพิจารณางบประมาณปี 63 ที่ค้างปีมา ซึ่งฝ่ายค้านคงเปิดฉากนับแต่ยกแรกว่าด้วยจำนวน
วันที่จะใช้ในการอภิปราย
ถ้ารัฐบาลทำการบ้านมาไม่ดีพอ มีหวังเละแน่...
แต่ดูเหมือนรัฐบาลโชคดีอยู่อย่างที่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แม้จะปฏิบัติหน้าที่ยังไม่ได้ แต่ก็ได้เคลื่อนไหวนอกสภาอย่างต่อเนื่อง
พูดง่ายๆว่า เดินเครื่องเต็มตัวเพื่อไปสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศ
กลับสร้างปัญหาขึ้นมาเองหลายเรื่อง หลายประเด็น ไม่ต่างกับทำร้ายตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหุ้น ให้เงินกู้พรรคตัวเอง ล่าสุดก็เจอจ้างล็อบบี้ยิสต์เข้าไปเต็มเปา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เรื่องของการกลั่นแกล้ง เตะตัดขาเพื่อหวังทำลายทางการเมือง ทั้งที่จริงๆแล้วทำขึ้นมาเองทั้งสิ้น
ดีไม่ดีโอกาสที่หมดวาระก่อนเวลาก็เป็นไปได้ บางทีการมุ่งหน้าไปสู่ชนะอย่างเด็ดขาดนั้น ยังมีอีกหลายทางเลือก แต่ต้องแยกแยะให้ดีเสียก่อน
อย่าฝันเฟื่องจนละเลยความเป็นจริง.
“สายล่อฟ้า”