รวบ 2 โจร ตัดสายเคเบิล TOT เสียหายมูลค่ากว่า 3 แสน กระทบลูกค้า ประชาชน ธุรกิจโรงแรม ตำรวจ สภ.คุระบุรี จับได้พร้อมของกลางสายเคเบิลโทรศัพท์ TOT อุปกรณ์ตัดสายไฟ สารภาพนำโลหะทองแดงสายไฟ ขายให้ร้านของเก่าในพื้นที่จังหวัดระนอง

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 10 ธ.ค.60 ที่ สภ.คุระบุรี จ.พังงา พ.ต.อ.นิรัต สวัสดี ผกก.สภ.คุระบุรี พ.ต.ท.สุรศักดิ์ รอดไกร รอง ผกก.ป.สภ.คุระบุรี พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สมมาตย์ สวป.สภ.คุระบุรี นายสนอง มธุรส นายช่าง 7 ตัวแทน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จับกุมผู้ต้องหาลักตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ TOT สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 300,000 บาท และยังส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการใช้อินเทอร์เน็ตที่เป็นลูกค้าประชาชน โรงแรม รีสอร์ต ในหลายพื้นที่ของจังหวัดพังงา

ทางเจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพังงา ได้วางแผนจนสามารถจับกุมคนร้าย เป็นผู้ต้องหาจำนวน 2 คนคือ นายสราวุฒิ กล้าศึก อายุ 29 ปี, นายรอฝาอาด ขุนภักดี อายุ 34 ปี (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน) พร้อมด้วยของกลางสายเคเบิลโทรศัพท์ TOT น้ำหนักประมาณ 60 กิโล กระสอบปุ๋ยจำนวน 2 กระสอบ คีมใช้สำหรับตัดสายไฟจำนวน 2 อัน และกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลจำนวน 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน

...

พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สมมาตย์ สวป.สภ.คุระบุรี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ว่า ในพื้นที่ อ.คุระบุรี ได้มีแก๊งตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ TOT จนสร้างความเดือดร้อนกับลูกค้าที่เป็นประชาชน โรงแรม รีสอร์ค บ่อยครั้งซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนหาข่าว และซุ่มโป่งอยู่หลายครั้งจนสังเกตเห็นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณริมถนนใกล้กับปากซอยเอ็กซ์ซ่า ขณะกำลังยกอุ้มกระสอบปุ๋ยที่ซุกซ่อนสายเคเบิลโทรศัพท์อยู่ข้างทางขึ้นรถจักรยานยนต์

"ตำรวจจึงพยายามขับไล่ติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลักตัดสายเคเบิลโทรศัพท์จริง เพื่อนำไปเผาไฟเอาโลหะทองแดงแล้วนำไปขายให้ร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสุขสำราญ จ.ระนอง มาเป็นเวลาหลายครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และร่วมกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือร่วมกันรับของโจร”.