แถมแอบเอาเอทีเอ็มไปใช้ มือมีดรับ-เป็นลูกค้าประจํา ทิ้งศพไว้ที่ร้างข้างโรงเรียน


นักเรียน ม.3 สุดโหด ใช้มีดพร้าฟันหน้าสาวพิการขาลีบลูก 5 ตายอนาถ คาดงกระถิน ในซอยประชาอุทิศ 75 ย่านทุ่งครุ สาเหตุผู้ตายโกงเงินซื้อยาบ้าไปหลายครั้ง แถมยังเอาบัตรเอทีเอ็มที่ฝากไว้ไปกดเงินอีก 1.3 หมื่นบาท เมื่อพาเพื่อนอีก 2 คน ไปพูดคุยทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยงปฏิเสธ เลยฟิวส์ขาดก่อเหตุ หลังเกิดเหตุตำรวจสืบ 8 และ สน.ทุ่งครุ กดดันหนักจนผู้ปกครองและครูต้องพามอบตัว มือมีดแอ่นอกรับสารภาพ อ้างเพื่อนที่ไปด้วยไม่เกี่ยว

ฟันหน้าฆ่าสาวพิการขาลีบปมหักยาเสพติด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. พ.ต.ท.หญิง ชุติมา ยิ่งสังข์ สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้ง พบศพสาวพิการขาลีบถูกฆาตกรรมอยู่ในที่รกร้าง ระหว่างอาคารดีไลท์ เอช คอนโดมิเนียม และกำแพง ร.ร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย กลางซอยประชาอุทิศ 75 ถนนประชาอุทิศ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พ.ต.อ.มานพ สุคนธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผกก.สน.ทุ่งครุ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งครุ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชฯ รพ.ศิริราช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

จุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนในซอย มีต้นกระถินและต้นกล้วยขึ้นเต็มในเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ว. พบศพนางรัชนี เซนเชาว์นิช อายุ 36 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 67/8 หมู่ 5 แขวงโคกแฝด เขตหนอกจอก กทม. นอนหงายในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ผ้าถุงลายดอกสีดำ ใบหน้าผู้ตายถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ 2 แผล ห่างไป 10 ม. พบมีดพร้ายาว 50 ซม. เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบในตัวไม่พบของมีค่าแต่อย่างใด

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายพักอยู่ห้องเลขที่ 47/216 ชั้น 2 ของดีไลท์ เอช คอนโดมิเนียม ก่อนเกิดเหตุ ประมาณสี่ทุ่มของวันที่ 22 มิ.ย. ผู้ตายนั่งเล่นอยู่หน้าอาคาร มีกลุ่มนักเรียนชาย ร.ร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย 3 คน ทั้งหมดอายุไม่เกิน 17 ปี เท่าที่สังเกต 1 ในนั้นสวมเสื้อยืดแขนสั้นลายพราง สวมกางเกงขาสามส่วน ที่เหลือสวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ เรียกผู้ตายให้เข้าไปพูดคุยตรงจุดพบศพ แต่ผู้ตายขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นสวมผ้าถุง แล้วตามกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปในดงกระถิน ไม่นาน 1 ใน 3 เดินออกมาจากจุดเกิดเหตุ ส่วนชายที่ใส่เสื้อลายพรางวิ่งออกมาเรียกเพื่อน โดยพูดว่า “เฮ้ย มันยังไม่ตาย” จากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งเข้าไปตรงจุดพบศพอีกครั้ง ก่อนวิ่งออกมากัน 3 คน จับกลุ่มปรึกษากันจับใจความได้ว่า “จะเอายังไงกันดี แยกย้ายกันหนีก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่” จากนั้นทั้งหมดแยกย้ายหลบหนี โดย 1 ในนั้นปีนกำแพงกลับเข้าไปในโรงเรียน

...

ด้านผู้ดูแลคอนโดฯรายหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มว่า ผู้ตายเป็นผู้พิการขาลีบทั้ง 2 ข้าง เดินไม่ปกติ เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 5 เดือน มีบุตร 5 คน ส่วนสามีเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่กับญาติอีก 4-5 ห้อง ผู้ตายไม่ได้ทำงาน ญาติต้องส่งเสียเลี้ยงดู ปกติแล้วถ้าลูกๆไปโรงเรียนกันหมด ผู้ตายจะเรียกวัยรุ่นชายที่อยู่ ร.ร.อิสลามวิทยาลัยฯขึ้นไปมั่วสุมอยู่ในห้องครั้งละ 8-10 คน ส่งเสียงรบกวนข้างห้องอยู่บ่อยครั้ง จนต้องกล่าวตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง

ต่อมาเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน หลัง พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกก.สส.บก.น.8 นำกำลังลงพื้นที่กดดันกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างหนัก ทำให้ผู้ปกครองของเยาวชนผู้ก่อเหตุทั้งสามต้องรีบพาเข้ามอบตัว เบื้องต้นพบทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ม.3 ร.ร.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย พักอยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ ทั้งหมดมีความสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดี เบื้องต้น 1 ในผู้ต้องหาที่เป็นมือมีดสารภาพว่า รู้จักผู้ตายในฐานะเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายย่อยในพื้นที่ ตัวเองเป็นลูกค้าขาประจำ ก่อนเกิดเหตุถูกนางรัชนีหลอกเอาเงินค่าฝากซื้อยาบ้าไปครั้งละ 1-2 พันบาท แล้วไม่ได้ของรวมหลายครั้ง เมื่อทวงถามกลับนิ่งเฉย ซ้ำนางรัชนีก็ยังแอบนำบัตรเอทีเอ็มที่ฝากไว้ไปกดเงิน 13,000 บาท ออกมาใช้แล้วอ้างว่าทำบัตรหาย สร้างความโกรธแค้นเป็นอย่างมาก จึงชวนเพื่อนในกลุ่มอีก 2 คนไปทวงถาม เรียกลงมาคุยตรงจุดพบศพ แต่ผู้ตายกลับบ่ายเบี่ยงปฏิเสธ เมื่อคุยไม่รู้เรื่องจึงบันดาลโทสะใช้มีดพร้าฟันใบหน้า 2 ครั้ง จนเสียชีวิต ก่อนแยกย้ายหนี

พ.ต.อ.ประสงค์เปิดเผยว่า เตรียมประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสามต่อหน้าพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งครุ เบื้องต้น 1 ใน 3 สารภาพว่าลงมือเพียงลำพัง ที่เหลือมาเป็นเพื่อนเท่านั้น ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด ต้องรอผลสอบปากคำอย่างละเอียด ต้องขอขอบคุณผู้ปกครองและครูที่ช่วยกันเกลี้ยกล่อมพาผู้ต้องหาทั้งสามเข้ามอบตัว สำหรับกระแสข่าวที่มีผู้ต้องสงสัย เป็นหญิงสาววัยรุ่นอีก 1 รายร่วมก่อเหตุด้วยนั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบความเชื่อมโยง