ทนายกฤษณะ ส่องานเข้า หลังลุงวัย 78 ปี ร้องทนายษิทรา อ้างอดีตทนายแม๊ ทิ้งคดี ไม่ทำหนังสือคำเบิกความ สุดท้ายแพ้ เป็นหนี้อีกรอบ
วันที่ 10 มิ.ย. นายสังเวียน คำภีรบุตร อายุ 78 ปี เข้าปรึกษากับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กรณีว่าจ้าง นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา ให้ว่าความคดีที่ถูกเจ้าหนี้ฟ้องแพ่ง คดีกู้ยืมแล้วไม่จ่ายคืน ทั้งที่จ่ายเงินคืนครบแล้ว โดยอ้างว่า นายกฤษณะ ไม่ยื่นคำเบิกความต่อศาลเพื่อนำหลักฐานไปสู้คดี เป็นเหตุให้ต้องแพ้คดี โดยศาลพิพากษาตัดสินให้ชำระหนี้ค่าจำนองที่ดินอีกกว่า 1.7 ล้านบาท
นายษิทรา กล่าวว่า ผู้เสียหายไปจ้างทนายความคนดังกล่าว หลังนำที่ดินไปจำนองแล้วเป็นหนี้ แม้จะชดใช้เงินเกินไปมาก และมีหนังสือสัญญายอมรับ แต่กลับถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องเป็นคดีแพ่ง เนื่องจากทนายไม่ทำหนังสือคำเบิกความ จนสุดท้ายแพ้คดี และต้องชำระหนี้ซ้ำสอง
นายสังเวียน เปิดเผยว่า ตนเองถูกฟ้องร้องคดีแพ่ง หลังนำโฉนดที่ดิน 2 ฉบับ ไปจำนองเป็นเงิน 1 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งเจ้าหนี้เขียนสัญญา 2 ฉบับ ฉบับละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้านบาท เมื่อตนถามว่าทำไมไม่เขียนฉบับละ 7 แสนบาท ผู้ให้กู้อ้างว่า เราเป็นพวกเดียวกัน จากนั้นตนก็ผ่อนชำระหนี้งวดแรก 35,000 บาท มากบ้างน้อยบ้าง โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปี 2542 จนใช้หนี้รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท รวมระยะเวลา 4 ปี ไม่เคยกู้เพิ่ม ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่า เจ้าหนี้จะมาฟ้องร้องตนทำไม ทั้งที่จ่ายหนี้สินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยไปจนหมดแล้ว
กระทั่งได้ไปพบกับ นายกฤษณะ โดยบังเอิญที่ศาลจังหวัดสระบุรี โดยนายกฤษณะ ได้เข้ามาสอบถามและแสดงความจำนงจะว่าความคดีนี้ให้ โดยคิดเงินค่าว่าความ 35,000 บาท แล้วต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาลอีก 20,000 บาท
...
อย่างไรก็ตาม การว่าความคดีดังกล่าว นายกฤษณะ ไม่เคยให้ตนเองเข้าไปในห้องพิจารณาคดีเลย เพราะไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย จนวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา ให้ตนแพ้คดีและต้องชำระเงินให้กับโจทก์ และมาพบตอนหลังว่า นายกฤษณะไม่ได้ยื่นคำเบิกความต่อศาลในการสู้คดี
นอกจากนี้ นายกฤษณะ ยังมาขอยืมเงินไปอีกหลายครั้ง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งยังเหลือเงินที่ยังไม่มาคืนอีก 20,000 บาท ทำให้ตนรู้สึกน้อยใจว่า จ่ายทั้งค่าทนายความ และให้หยิบยืมเงิน แต่ทำไมถึงไม่ว่าความให้ตนเองอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม จะไม่ไปร้องการผิดมารยาททนายความคนดังกล่าว ที่สภาทนายความ เพราะรู้สึกสงสาร แต่จะอยากขอสู้คดีต่อ ถ้ายังมีหนทาง
นายษิทรา เปิดเผยว่า หากทนายได้รับมอบให้ทำคดีแล้วไม่ทำ นับเป็นการทิ้งคดี ถือว่าผิดมารยาททนายความ ซึ่งสามารถร้องให้สภาทนายความตรวจสอบเพื่อลงโทษได้ หนักสุดถึงขั้นถอดใบอนุญาตทนายความ
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือคดีนี้ ยอมรับว่าหากเป็นการสู้คดีทางแพ่ง ที่ศาลตัดสินไปแล้วทำได้ยาก แต่คดีอาญาสามารถทำได้ โดยจะต้องดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ กรณีเบิกความเท็จ เพราะนายสังเวียนใช้หนี้ไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากมีการชี้แจงจากทนายกฤษณะ จะได้นำเสนอให้ทราบต่อไป.