นายพรานที่น่าน แบกปืนยาวอุ้ม 'ไก่ต่อ' ไปล่อไก่ป่า หายไปข้ามวัน ญาติออกตามหาเจอเป็นศพตัวแข็ง คาดขณะอุ้มไก่อยู่กับตัว ไก่เจ้ากรรมดันขันขึ้นมา ทำให้พรานกลุ่มอื่นที่ซุ่มอยู่ยิงใส่ เพราะคิดว่าเป็นไก่ป่า แต่พอมาดูเห็นว่าเป็นคนเลยรีบเผ่น 

เมื่อตอนบ่ายวันที่ 24 ธ.ค. ร.ต.ท.สงกรานต์ ช่างกันทา หน.ตร.ตู้ยามห้วยลี่ บ้านห้วยลี่ หมู่ 3 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน ได้ระดมชาวบ้านห้วยลี่ หมู่ 3 ออกตามหานายกิตติศักดิ์ แซ่ลี อายุ 27 ปี ชาวบ้านที่ออกไปล่าไก่ป่า แล้วหายไป จนไปถึงบริเวณกลางป่าบนดอยห้วยฮ่าง บ้านห้วยขาม หมู่ 4 ต.เรือง อ.เมืองน่าน พบศพนายกิตติศักดิ์ ในสภาพนอนตะแคง ตัวแข็ง สวมชุดลายพรางทหารเสื้อแขนยาว กางเกงขาวยาว สวมรองเท้าเดินป่า เสียชีวิตมาแล้วกว่า 10 ชม.

ทั้งนี้ ในตะกร้าที่นายกิตติศักดิ์สะพายติดตัว พบไก่ตั้งหรือไก่ต่อ ซึ่งเป็นไก่ที่ใช้ล่อไก่ป่าให้มาหาเพื่อจะได้ยิง ยังมีชีวิตอยู่ และจากการพลิกศพพบที่บริเวณหน้าผากมีรอยกระสุนปืนลูกตะกั่ว ไม่ทราบชนิด จำนวน 9 เม็ด เลือดอาบหน้าแห้งกรัง ส่วนตามร่างกายไม่มีบาดแผล ห่างจากศพประมาณ 1 เมตร พบอาวุธปืนแก๊ปยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 1 ชุด และมีรอยเท้าย่ำอยู่จำนวนหนึ่ง จึงได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายชาญชัย เชี่ยวชาญ อายุ 29 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การว่า ตนและนายกิตติศักดิ์ ได้ชวนกันออกไปล่าสัตว์ โดยได้แยกย้ายกันเข้าป่าซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างหมู่บ้านห้วยข้ามกับบ้านห้วยลี่ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2-3 กม. นัดไปเจอกันอีกทีที่บริเวณสวนลิ้นจี่ท้ายหมู่บ้าน ตนไปรออยู่นาน แต่ผู้ตายก็ยังไม่กลับมา จึงเข้าใจว่าคงกลับบ้านไปแล้ว แต่เมื่อถึงบ้านทราบว่า ผู้ตายยังไม่กลับ ญาติๆจึงไปแจ้งตำรวจที่ตู้ยามห้วยลี่ และพากันออกตามหา จนไปพบนายกิตติศักดิ์ถูกยิงตายอยู่ในป่า

...

ด้าน ร.ต.อ.ชัยนวัฒน์ ก้อนแก้ว พงส.สภ.เรือง เจ้าของคดี สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า ในวันเวลาดังกล่าว นอกจากผู้ตายแล้ว น่าจะมีกลุ่มผู้ล่าสัตว์ป่าอยู่อีก และช่วงที่เกิดเหตุน่าจะเป็นเวลาพลบค่ำ ไก่ตั้งหรือไก่ต่อ ที่ผู้ตายสะพายมาด้วยเกิดขันขึ้นมา ทำให้พรานที่ซุ่มอยู่ ยิงมาตามเสียงไก่ขัน โดยเข้าใจว่าเป็นไก่ป่า แต่พอยิงเสร็จเดินมาดูเห็นว่าเป็นคนและตายแล้ว จึงพากันหลบหนีไป ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามมือปืนที่ยิง นายกิตติศักดิ์ เชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ที่ออกล่าสัตว์ด้วยกัน หรือกลุ่มล่าสัตว์จากหมู่บ้านอื่น เนื่องจากช่วงนี้มีสัตว์ป่าชุกชุม มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.