“แก๊งโจ๋ทะลุถุง” พาเหรดเข้ามอบตัวตำรวจ สน.บางมด แล้ว เป็นชาย 3 คน และผู้หญิง 5 คน พฤติกรรมกร่าง ด่านักข่าวหญิงที่เข้าไปสอบถามเรื่องฉาว ทั้งรุมซ้อม บังคับถอดเสื้อ ถ่ายคลิปเหยื่อ นศ.สาว 2 คน วัย 16 และ 18 ปี ประจานโซเชียล กลุ่มผู้ต้องหารู้สึกผิด แตกแถวออกมาแฉพฤติกรรมวันเกิดเหตุ เคยก่อเรื่องมาแล้วหลายครั้ง ปูดก่อนเข้าพบตำรวจรวมหัวเตี๊ยมคำให้การกันมาเป็นอย่างดี เบื้องต้นสหวิชาชีพแยกสอบเครียด ผกก.สน.บางมด เผย เบื้องต้นแจ้งดำเนินคดีคนละ 4 ข้อหา แย้มกันบางคนไว้เป็นพยาน
กรณีนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พา 2 นักศึกษาสาว น.ส.เอ อายุ 18 ปี และ น.ส.บี อายุ 16 ปี ถูกกลุ่มเพื่อนและอดีตนักศึกษาร่วมสถาบันอาชีวศึกษาย่านฝั่งธนบุรี ลวงไปรุมทำร้าย บังคับให้ถอดเสื้อถ่ายคลิปประจานลงโซเชียล สาเหตุเรื่องความหึงหวง เหตุเกิดบริเวณที่รกร้างใกล้วัดโพธิ์แก้ว ถนนพระราม 2 แยก 1 แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.ตั้งแต่คืนวันที่ 7 ต.ค. แต่หลังจากผู้เสียหายทั้ง 2 คน เข้าแจ้งความ สน.บางมด ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. คดีไม่มีความคืบหน้า
ความคืบหน้าจาก สน.บางมด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 พ.ย. กลุ่มผู้ปกครองพากลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเด็กและเยาวชนรวม 8 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 3 คนและผู้หญิง 5 คน อายุระหว่าง 16-18 ปีเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สนชัย พูนผล ผกก.สน.บางมด เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยวลิดรอนสิทธิเสรีภาพ กระทำอนาจาร และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนมีทีมสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบสวน
ทั้งนี้ระหว่างกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวเข้าถ่ายรูปทำข่าว นายฟิล์ม (นามสมมติ) อายุ 18 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาพยายามเดินหนีและปฏิเสธไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงท่าทีไม่พอใจสบถคำหยาบใส่ผู้สื่อข่าวหญิงโทรทัศน์ช่องหนึ่งด้วย ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาคนอื่น ปฏิเสธตอบคำถามบอกเพียงว่า ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
...
ย่าของนายฟิล์มกล่าวว่า ตนมีบ้านใกล้ที่ เกิดเหตุ ส่วนใหญ่กลุ่มเพื่อนของหลานจะมามั่วสุมกันบริเวณบ้าน วันเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านเลี้ยงหลาน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของผู้หญิงแต่ไม่รู้มีเรื่องเพราะอยู่แต่ในบ้าน สอบถามหลานชายทราบว่ากลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่อยู่นอกพื้นที่ เข้ามามีเรื่องมีราวบริเวณข้างบ้านเท่านั้น และหลานชายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้พาหลานมาให้ปากคำตำรวจไปแล้ว วันนี้ตำรวจเรียกตัวมาอีก ส่วนหลานชายพูดจาหยาบคายกับนักข่าว เพราะว่าหลานชายไม่พอใจพ่อตัวเองที่หาห้องสืบสวนไม่เจอ ไม่ได้ด่าผู้สื่อข่าวปกติหลานชายจะเป็นคนพูดจาลักษณะนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
ต่อมานายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหายหญิงทั้ง 2 คนและผู้ปกครองของเด็ก รวมทั้งผู้ต้องหา น.ส.ใบเฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์แต่กลับใจ นอกจากตกเป็นผู้ต้องหาแล้วจะขอเป็นพยานให้ผู้เสียหายด้วย เดินทางมาที่ สน.บางมด
กัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ได้รับข้อมูลและได้รับการติดต่อจากคนที่เคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งโจ๋ทะลุถุงกลุ่มนี้ว่า สร้างวีรกรรมไว้หลายต่อหลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือ น.ส.ใบเฟิร์น ผู้ก่อเหตุกลับใจขอมาเป็นพยานให้ผู้เสียหาย เนื่องจากตัวเองเคยถูกกระทำมาเช่นกัน เลยรู้สึกผิด ขอออกมาเล่าความจริงว่า ฝั่งผู้ก่อเหตุวางแผนคำให้การ เตี๊ยมกันมาเป็นอย่างดีว่าจะให้ใครรับผิดส่วนไหน
“นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหายังปล้นเอาเงินผู้เสียหายไป 100 บาทและรองเท้า 1 คู่ อย่างไรก็ตามวันนี้จะประสาน ผกก.สน.บางมด ให้เร่งรัดดำเนินคดีกลุ่มผู้ต้องหา หากเข้ากฎหมายข้อไหน จะให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด และจะให้ ผกก.สน.บางมด ตรวจสอบด้วยว่า ผู้ก่อเหตุคนไหนรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ส่วนพฤติกรรมด่านักข่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย อยากบอกว่าเป็นพฤติกรรมไม่ดีทำกับผู้สื่อข่าวผู้หญิง จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” กัน จอมพลัง กล่าว
ด้าน น.ส.ใบเฟิร์นกล่าวว่า ตอนเกิดเรื่องตนกับกลุ่มผู้เสียหายเป็นเพื่อนในวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยความที่ตนเป็นคนอารมณ์ร้อน น.ส.น้ำมนต์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี หัวโจกของกลุ่มมาบอกว่า น.ส.เอ ผู้เสียหายนินทาลับหลัง ตอนนั้นยอมรับว่า หลงเชื่อไม่ได้ถามผู้เสียหายก่อน ก่อนที่ น.ส.น้ำมนต์และกลุ่มเพื่อนร่วมกันวางแผนจะจัดงานวันเกิดให้ น.ส.เบนซ์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ล่อลวงผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกายข้างบ้านนายฟิล์ม นายฟิล์มเองบอกว่าให้มาใช้สถานที่ได้เลย เพราะว่าจุดนั้นเป็นสถานที่เทรนรุ่นน้องหรือเป็นสถานที่รับน้องของสถาบัน เมื่อ 2 ผู้เสียหายมาก็เป็นไปตามที่ผู้เสียหายเล่า คืนเกิดเหตุตนพยายามปิดไฟฉายโทรศัพท์ เนื่องจากมีชาวบ้านถามว่า เกิดอะไรขึ้น แต่ตนถูก น.ส.น้ำมนต์ด่าให้เปิดไฟฉายโทรศัพท์ส่องตัวผู้เสียหาย น.ส.น้ำมนต์ บังคับให้ผู้เสียหายถอดเสื้อผ้าถ่ายคลิป
“หลังเกิดเหตุหนูส่งข้อความไปด่าผู้เสียหายอีกครั้ง แต่หลังจากพูดคุยปรับความเข้าใจกันแล้วมาทราบว่า ผู้เสียหายไม่ได้พาดพิงถึง เป็นการเข้าใจผิด ขอแสดงความเสียใจและขอโทษไปแล้ว เหตุดังกล่าวเกิดจากการยุยงปั่นประสาทของ น.ส.น้ำมนต์เพียงคนเดียว ที่คิดว่าแฟนหนุ่มของตัวเองที่เลิกกันไปคบกับผู้เสียหาย วันนี้ต้องการมาให้ข้อมูลกับกัน จอมพลัง และเจ้าหน้าที่แสดงความขอโทษกับครอบครัวผู้เสียหายว่ารู้สึกผิดจริง พร้อมขอโทษ หากจะถูกดำเนินคดีก็ต้องยอมรับความจริง” น.ส.ใบเฟิร์นกล่าว
ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สนชัย พูนผล ผกก.สน.บางมด กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพยังแยกสอบผู้ต้องหารายบุคคล พฤติกรรมของแต่ละบุคคลเป็นยังไง และยังมีใครร่วมอีกบ้าง หลังการสอบสวนต้องแยกกลุ่มผู้ต้องหาเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องหาและอีกกลุ่มกันไว้เป็นพยาน ทั้งนี้ กลุ่มผู้ต้องหาเป็นเด็กและเยาวชนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดำเนินการทำตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งคัด
...
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่