กระทรวงวัฒนธรรมจับมือ ททท. และภาคีเครือข่าย จัด “งานลอยกระทง ปี 2567” อย่างยิ่งใหญ่ทั่วไทย เน้นใช้วัสดุธรรมชาติ ส่วนการเล่นพลุ จุดประทัด ปล่อยโคมลอย ต้องขออนุญาต พร้อมดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ หวังปักหมุดให้ทั่วโลก มาเที่ยวชมความงามประเพณีไทย โดยมีไฮไลต์การ จัดงานใน 5 เมืองที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว “เชียงใหม่-สุโขทัย-ตาก-สมุทรสงคราม-ร้อยเอ็ด” กับอีก 8 เมืองน่าเที่ยว ส่วนใน กทม.จัดใหญ่ที่ “วัดอรุณฯ-คลองผดุงกรุงเกษม”

ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศ ไทย กทม. เมื่อวันที่ 21 ต.ค. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวการจัดงานวันลอยกระทงประจำปีพุทธศักราช 2567 “ลอยกระทง วิถีไทยปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” โดย น.ส. สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วธ. กล่าวว่า ปีนี้ สวธ.มีการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่จะส่งเสริมประเพณีลอยกระทง นำแนวคิดลอยกระทงวิถีไทย คือมุ่งเน้นคุณค่า สาระของประเพณีไทย สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับประเพณี ลอยกระทง สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงทุกระดับ และช่วยกันสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมถึงรณรงค์ให้ช่วยกันดูแลแหล่งน้ำให้สะอาด นอกจากนี้มีการส่งเสริมให้ประชาชนใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่ประเพณีลอยกระทงในช่องทางต่างๆ เพื่อให้คนทั่วโลกได้รับรู้เรื่องประเพณีการลอยกระทงอันดีงามของประเทศไทย

รมว.วธ.กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันให้มีการขออนุญาตใช้โคมลอย พลุและดอกไม้ไฟ เพื่อความปลอดภัย อีกทั้งอยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาเกิดความเข้าใจผิด เพราะการใช้กระทงขนมปังไม่ได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่จะทำให้น้ำเน่าเสีย โดยเฉพาะในแหล่งน้ำระบบปิด หรือคลองที่ไม่มีน้ำไหล จึงควรใช้วัสดุทางธรรมชาติ ทั้งนี้ วธ.ร่วมกับ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด จัดงานลอยกระทงอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 15 พ.ย. ที่วัดอรุณราชวรารามฯ มีการจัดทำบทเพลงวันลอยกระทง ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น สเปน โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ พร้อมมีศิลปินที่มีชื่อเสียงมาร่วมสร้างความสนุกสนาน อาทิ สุดา ชื่นบาน มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ผิงผิง มีการสาธิตอาหารไทยของชุมชนต่างๆ

...

“นอกจากนี้ วธ.ยังร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดไฮไลต์การจัดกิจกรรมใน 5 เมือง ที่มีอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ในการจัดงาน ได้แก่ เชียงใหม่ (ยี่เป็ง) สุโขทัย (เผาเทียน เล่นไฟ) ตาก (กระทงสาย) สมุทรสงคราม (กระทงกาบกล้วย) และร้อยเอ็ด (สมมาน้ำ คืนเพ็ง เส็งประทีป) และพื้นที่ 8 เมืองน่าเที่ยว ได้แก่ กาญจนบุรี พระนคร ศรีอยุธยา ลำปาง นครราชสีมา ขอนแก่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ และภูเก็ต และส่งเสริมการจัดประเพณีลอยกระทงทุกจังหวัดให้ทั่วโลกได้เห็นการสืบสานรักษาและสืบสานคุณค่าของประเพณีไทย ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาประเพณีลอยกระทงให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศและผลักดันให้ประเพณีลอยกระทงเป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเที่ยวประเทศไทย” รมว.วธ.กล่าว

ด้านนายไพรัชช์ ทุมเสน ผอ.กองสร้างสรรค์กิจกรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปีนี้ ททท.จัดงานระหว่างวันที่ 13-16 พ.ย. ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษม มีกิจกรรมที่นำเสนอคุณค่าแสดงถึงความรุ่งเรือง ความสวยงามของประเพณีไทยที่สืบทอดจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน มีการแสดงทางวัฒนธรรม การจัดริ้วขบวนอย่างสวยงาม มีการรณรงค์ให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้ใช้กระทงน้อยที่สุด 1 ครอบครัว 1 กระทง รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ วัสดุทางธรรมชาติ และการนำขยะไปใช้งานได้ต่อ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่