“ดีเอสไอ” ไม่หวั่นไหว เดินเครื่อง คลี่คลายคดีหมูเถื่อนต่อตามหมายเดิม เตรียมเข้าขอข้อมูลบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่วันที่ 1 ธ.ค. นอกจากนี้พบข้อมูลใหม่มีการนำเข้าหมูเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2566 มีนักการเมืองและข้าราชการประจำหลายหน่วยงานเกี่ยวข้องพันกลุ่มเอกชนนำเข้าอาหารแช่แข็งและพลาสติกมูลค่าหลักพันล้านบาท กลุ่มใหม่เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ไม่เคยมีบุคคลใดหรือนิติบุคคลใดถูกจับกุมมาก่อน “ก้าวไกล” ยังไล่บี้ “เศรษฐา” เคลียร์ปมเด้งอธิบดี ดีเอสไอ ประกาศตามเกาะติดเพราะสังคมตั้งคำถาม

กรณีการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีหมูเถื่อนของกรมสอบสวนพิเศษที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับเดือน ล่าสุด ครม.มีมติย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการโดนย้ายเพราะคดีหมูเถื่อนหรือไม่ ความคืบหน้าจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 29 พ.ย. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กำหนดแนวทางการทำสำนวนคดี

หลังประชุม พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐวรรณ เผยว่า การประชุมร่วมคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ พ.ต.ต.ยุทธนามีมติขยายผลจาก 10 บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่จับกุมแล้วพบว่า นำตู้บรรทุกหมูบางส่วนออกไปก่อนว่ากระจายไปที่ไหนอย่างไร และอีกคดีใหญ่ที่สุดเรื่องการนำเข้าตู้หมูเถื่อนพบว่า นำเข้าตั้งแต่ปี 2564-2566 กระบวนการทั้งหมดเกิดจากข้อมูลของกลุ่มสัตวแพทย์ที่รายงานผลเรื่องมีโรคระบาดหมูภายในประเทศ และคำอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัยที่แล้ว รวมถึงการส่งเบาะแสจากเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยจำนวนมากและสายลับ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เราจะรับดำเนินการเกี่ยวกับขบวนการองค์กรอาชญากรรม ลักษณะกระทำความผิดส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหารเป็นคดีพิเศษอีกคดี เพื่อสางขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนทั้งหมด

...

“สำหรับคดีใหม่ที่จะรับเป็นคดีพิเศษพบว่า มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนพัวพันจำนวนมาก เราจะดำเนินการในภาพรวมขนาดใหญ่ จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า กลุ่มใหญ่นำเข้าอาหารแช่แข็ง ประเภทปลาแช่แข็งและพลาสติกประเภทพอลิเมอร์ ทำให้เห็นชัดเจนว่ากลุ่มใหม่นี้เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ ไม่เคยมีบุคคลใดหรือนิติบุคคลใดถูกจับกุมมาก่อน กลุ่มใหม่นี้เราพบการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์หลายพันตู้ พร้อมเงินหมุนเวียนของบุคคลนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องหลักพันล้านบาท” พ.ต.ต.ณฐพลกล่าว

พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนตู้คอนเทนเนอร์หมูเถื่อนที่พบก่อนหน้านี้ แอบลักลอบนำเข้าเมื่อปี 2564 จำนวน 2,385 ตู้ ล่าสุดพบเพิ่มเป็น 2,388 ตู้ ส่วนจำนวน 161 ตู้ ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ แตกเลขคดีออกเป็นอีก 9 เลขคดีพิเศษ ประกอบด้วย คดีพิเศษที่ 101/2566 บริษัทกู๊ด วอเตอร์ อีควิฟเม้นท์ จำกัด คดีพิเศษที่ 102/2566 ห้างหุ้นส่วนจำกัดกันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช คดีพิเศษที่ 103/2566 บริษัทมายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด คดีพิเศษที่ 104/2566 บริษัทอาร์.ที.เอ็นโอเวอร์ซี จำกัด คดีพิเศษที่ 105/2566 บริษัทเรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด คดีพิเศษที่ 106/2566 ห้างหุ้นส่วนจำกัดสหัสวรรษ ฟูดส์ คดีพิเศษที่ 107/2566 บริษัทซี เวิร์ล โฟรเซ่น ฟู้ด จำกัด คดีพิเศษที่ 108/2566 (สงวนการเปิดเผยชื่อ) และคดีพิเศษที่ 109/2566 (สงวนการเปิดเผยชื่อ) เพื่อดูว่า 10 บริษัทชิปปิ้งเอกชนเหล่านี้ นำตู้คอนเทนเนอร์บรรจุชิ้นส่วนสุกรออกไปก่อนกี่ตู้ และเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เราสืบสวนทางการเงินพบว่ามีขบวนการใหญ่เกี่ยวข้อง จะให้ ปปง.ช่วยตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์ผู้กระทำความผิดต่อไป

“ส่วนกลุ่มนายทุนหลังจากดีเอสไอจับกุม 2 พ่อลูกนายวิรัชและนายธนกฤต ภูริฉัตร ไปแล้ว เราขยายผลพบว่า มีอีก 2-3 กลุ่ม วันนี้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้ว 1 รายเกี่ยวข้องกับ 161 ตู้ และไม่ได้อยู่ใน 10 บริษัทชิปปิ้งเอกชนที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ส่วนปฏิบัติการที่มีรายงานว่าจะเข้าตรวจค้นบริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (Ek-Chai Distribution System Co., Ltd.) หรือโลตัส ในวันที่ 1 ธ.ค.จะดำเนินการต่อไปสัปดาห์หน้า ไม่ได้ถูกเบรกหรือเป็นสุญญากาศจะทำตามแผนที่วางไว้” หัวหน้าคณะคลี่คลายคดีหมูเถื่อนกล่าว

พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวต่อว่า ส่วนข้อสงสัยว่าดีเอสไอสืบสวนพบว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งจากผู้ต้องหาเข้าตรวจสอบจนเป็นเหตุให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดฯยุติธรรมนั้น ขอยืนยันว่าไม่มีผลต่อการทำงาน เพราะวันนี้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ สั่งการให้ดำเนินการตามแผนเดิม ไม่มีปัญหาติดขัด แม้จะเจอนายทุนใหญ่เราจะดำเนินการตามกรอบกฎหมาย ตามพยานหลักฐานที่พบ ส่วนการส่งเอกสารของแม็คโครเราให้เวลา 1 เดือน เพราะต้องเตรียมเอกสารที่กระจายอยู่หลายที่

พ.ต.ต.ณฐพลระบุเพิ่มเติมว่า สำหรับ 2,388 ตู้ เราแบ่งกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ 10 กลุ่ม จะไปตรวจสอบว่า มีใครหรือเจ้าหน้าที่ใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง แต่ตอนนี้ในจำนวน 161 ตู้เดิมที่ดำเนินการไปยังไม่พบเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากส่งสำนวนแรกไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. ล่าสุดเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรตรวจพบตู้คอนเทนเนอร์บรรจุชิ้นส่วนสุกรแช่แข็งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพิ่มอีก 16 ตู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษอีกเลขคดีหรือไม่ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าทั้ง 16 ตู้นี้เกี่ยวข้องกับ 161 ตู้ก่อนหน้านี้ หรือเกี่ยวข้องกับ 2,388 ตู้ตอนหลัง ขั้นตอนหลังจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ศุลกากรมาให้ข้อมูลก่อน จากนั้นเสนอ พ.ต.ต.ยุทธนาพิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป

...

ที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ฐานะประธานกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เผยกรณีเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงปัญหาหมูเถื่อนว่า เรื่องที่เกิดขึ้น กมธ.ให้ความสำคัญว่า กระบวนการนี้มีต้นสายปลายเหตุอย่างไร อยากเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษมาให้ข้อมูล ตั้งความหวังว่า อยากทำความจริงให้ปรากฏว่า ใครเป็นผู้มีอิทธิพลเกี่ยวข้องเรื่องหมูเถื่อน ส่วนกรณี ครม.มีมติโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล นั้น ชวนให้สงสัยได้ เพราะคราวที่แล้วนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง แสดงอาการไม่ค่อยพอใจการทำงานดีเอสไอมาแล้ว หลังจากดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบห้างค้าปลีกแห่งหนึ่ง กมธ.จะติดตามข้อมูลเรื่องการโยกย้าย หากไปตรวจห้างค้าปลีกแล้วถูกย้ายทันที สังคมก็ตั้งคำถามได้ กมธ.จะถามเรื่องนี้แทนประชาชน เหตุใดโยกย้ายในจังหวะใกล้จับรายใหญ่ได้ อยู่ในช่วงเห็นภาพชัดมีกระบวนการใหญ่ นายกฯควรชี้แจงด้วย ไม่ควรปล่อยให้สังคมสงสัยจะเอาจริงเรื่องนี้หรือไม่ ควรชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจอะไรคือปัญหาที่แท้จริง

นายศักดินัยกล่าวว่า กมธ.จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ มาให้ข้อมูลเพราะถือเป็นด่านแรกในกระบวนการตรวจสอบนำหมูเถื่อนมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง หมูที่ขนมาตรงกับใบที่แสดงไว้หรือไม่ เพราะดีเอสไอบอกว่า มีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการต้องดูว่ามีใครบ้าง กมธ.จะดู 3 ประเด็น 1.มีการยกระดับมาตรการตรวจสอบและควบคุมอย่างไร 2.หมูเถื่อนที่จับได้จำนวนมากจัดการอย่างไร การฝังกลบทำให้ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ 3.การนำเข้าหมูเถื่อนเพราะราคาหมูในประเทศแพงใช่หรือไม่ เมื่อดูโครงสร้างเลี้ยงหมูในประเทศ รวมถึงราคาอาหารสัตว์มีราคาสูงมาก ย้อนแย้งกับราคาวัตถุดิบ เช่น ราคาข้าวโพด กมธ.จะดูว่ายกระดับพัฒนาให้เกษตรกรสามารถแข่งขันในตลาดได้ ไม่ต้องการเห็นเกษตรกรล้มหายตายจาก เหลือแต่ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่เป็นเรื่องน่ากังวล

...

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะสามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือต่อนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ฐานะประธานกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการทำลายเนื้อสุกรผิดกฎหมาย 4,500 ตันของกรมปศุสัตว์ มีพฤติกรรมน่าสงสัย นายไทกร กล่าวว่า หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งทำลายเนื้อหมูเถื่อนที่ท่าเรือแหลมฉบัง 4,500 ตันในทางลับ การทำงานของกรมปศุสัตว์ กรมสอบสวนคดีพิเศษไร้จิตสำนึก เอาหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ระบุว่า ติดโรคระบาดไปฝังที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว 30 ตัน กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งไปทั่วจนชาวบ้านประท้วง โดยไม่มีการทำประชาคมชาวบ้านในพื้นที่ ผิดกฎหมายหลายข้อ เหตุที่ต้องอาศัยอำนาจ กมธ.เพราะประวัติแต่ละคนที่ดูแลการกำจัดหมูเถื่อน 4,500 ตัน ไม่โปร่งใส เชื่อได้อย่างไรว่าไม่เอาหมูเถื่อนมาเวียนขาย ฝากนายกรัฐมนตรี ถ้าจะกวาดล้างต้องล้างทั้งหมด

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊ก “องอาจ คล้ามไพบูลย์” กรณีการเด้งฟ้าผ่าอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ใจความว่า คนในรัฐบาลทั้ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.ยุติธรรม โฆษกรัฐบาล ต่างออกมาชี้แจงทำนองเดียวกันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอ เพื่อให้การบริหารราชการของกระทรวงเรียบร้อย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ คำนึงถึงความรู้ความสามารถ ไม่เกี่ยวกับหมูเถื่อน ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น อมพระมาพูด ก็ไม่เชื่อ วิญญูชนทั่วไปเมื่อเห็นข่าวเด้งอธิบดีดีเอสไอพอคิดได้ว่าถูกเด้งเพราะอะไร นอกจากนั้นคนในดีเอสไอยังเชื่อว่าถูกเด้งเพราะไม่สนองนโยบายนาย ขอฝากไปยังนายกฯเศรษฐา ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นเรื่องสามารถทำได้ ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แต่อย่าให้เกิดข้อครหาตามมาว่าการโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะจะทำให้รัฐบาลเกิดปัญหาเรื่องการขับเคลื่อนงานไปสู่เป้าหมายในที่สุด

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่