เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ศูนย์การประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดประชุมประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศจากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ประธานอนุกรรมการด้านวัฒนธรรม กล่าวว่า วัฒนธรรมเป็นพลวัตที่ปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถสร้างรายได้และความมั่งคั่งให้ประเทศ สร้างความสัมพันธ์กับนานาชาติและสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลก

นายวีระกล่าวต่อว่า คณะอนุกรรมการด้านวัฒนธรรม มีการหารือและสรุปเป้าหมายเพื่อเสนอการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม 3 ด้าน ดังนี้ 1.การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมของการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และสันติสุข โดยผลักดันการสร้างสังคมคุณธรรมที่มีอัตลักษณ์ค่านิยมไทย และเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อนานาประเทศด้วยสื่อที่ทันสมัยและเข้าถึงทุกช่วงวัย รวมทั้งให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนการส่งเสริมคุณธรรมรูปแบบ “พลังบวร” ส่งเสริมประชาชนให้มีจิตสำนึกต่อสังคม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ตลอดจนเร่งรัดการดำเนินงาน ตามแผนแม่บทส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจะผลักดันให้คนไทยมีความพอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และเพิ่มเติมความกตัญญูรู้คุณด้วย

นายวีระกล่าวอีกว่า 2.การเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมทั้งในและนอกระบบการศึกษาจะส่งเสริมการบูรณาการและสร้างกลไกการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมในระบบการศึกษาทุกช่วงชั้น ส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ทุกประเภท ทั้งในส่วนของรัฐและเอกชน ส่งเสริมการเรียนรู้สื่อทุกประเภท จัดให้มีศูนย์ความรู้ระดับชาติ และส่วนภูมิภาคอย่างกว้างขวาง รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือและโอกาสในการเข้าถึงองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม 3.การนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในลักษณะอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมแบบครบวงจร โดยส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาต้นทุนทางวัฒนธรรมเพื่อต่อยอดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ พัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ได้แก่ อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น งานเทศกาล และมวยไทย อีกทั้งส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในอาเซียนและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่มีศักยภาพเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม.

...