ความต้องการสินค้าไทยในตลาดจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะในสายตาลูกค้าชาวจีนมองเป็นสินค้าคุณภาพสูง

และจากสถิติการค้นหาบนเว็บไซต์ และสินค้าขายดีบนช่องทางออนไลน์ของจีน สินค้าในกลุ่มอาหารและผลไม้ และสินค้าหมวดสุขภาพและความงาม มีผู้เข้าเยี่ยมชมและสั่งซื้อมากที่สุด

เพื่อตอบสนองความต้องการนี้ ล่าสุดกรมส่งเสริมการส่งออกเตรียมจัดตั้ง “TopThai Flagship Store” บนเว็บไซต์ Tmall Global เว็บขายสินค้าออนไลน์ยอดนิยมของชาวจีน

เปรียบเสมือนเป็นหน้าร้านค้าของไทยที่จะรวบรวมสินค้าไทยคุณภาพวางจำหน่ายบนเว็บไซต์นี้

หลังจากทุกอย่างเป็นรูปธรรม คาดว่าจะสามารถรวบรวมสินค้าแบรนด์ชั้นนำ และแบรนด์ SMEs ที่มีคุณภาพของไทยในกลุ่มสินค้าที่จีนมีความต้องการ ใน TopThai Flagship Store ได้กว่า 2,000 รายการ

เท่านั้นยังไม่พอ เตรียมออกแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลสำคัญของจีน กระตุ้นยอดขายในแหล่งใหญ่ที่สุดของนักช็อปชาวจีน

ทั้งนี้ ปัจจุบันเกิดความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซ ขยายมูลค่าการส่งออกไทยผ่านช่องทางขายออนไลน์ข้ามพรมแดนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดสหรัฐอเมริกา (Amazon และ eBay) ตลาดอเมริกาใต้ (B2Brazil) ตลาดแอฟริกา (GoSoko) ตลาดสิงคโปร์ (RedMart และ ShopJJ) ตลาดเมียนมา (Bagantrade) ตลาดเกาหลีใต้ (Trade–Korea และ Coupang) ตลาดฮ่องกง (HKTDC) ฯลฯ

เกษตรกรผู้ผลิต สตาร์ตอัพไทย ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน เขามีกฎกติกากันอย่างไร มีข้อจำกัดเรื่องไหน ที่สำคัญสินค้าชนิดไหน ประเทศอะไร เขาจัดเป็นสินค้าต้องห้ามอันนี้ต้องระวังที่สุด.