หลังเกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน เมื่อ ค.ศ.2022 คนอูเครนอพยพไปอยู่ตามที่ต่างๆทั่วโลก โปแลนด์ (1.6 ล้านคน) รัสเซีย (1.2 ล้าน) เยอรมนี (1.1 ล้าน) เช็ก (5.4 แสน) อังกฤษ (2.1 แสน) ส่วนใหญ่กระจายไปอยู่ในประเทศทางยุโรป

ย้อนหลังไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ตอนที่สหภาพโซเวียตล่มและอูเครนแยกออกมาเป็นประเทศใหม่ ตอนนั้นคนอูเครนก็ย้ายไปทำมาหากินนอกประเทศมากกว่า 7 ล้านคน อูเครนเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำสุดในยุโรป และช่วงนั้นมีอัตราการตายสูงกว่าการเกิด 2 เท่า ประชากรอูเครนลดลงมากกว่าร้อยละ 40

ช่วงที่รัสเซียปกครองโดยเยลต์ซิน เศรษฐกิจรัสเซียอ่อนแอมาก ทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจอูเครนไปด้วย เพราะการค้าร้อยละ 40 ของอูเครนขึ้นอยู่กับรัสเซีย

คนที่โดดเด่นใน ค.ศ.1999 คือวิคเตอร์ ยูเชนโค ตอนนั้นเป็นผู้อำนวยการธนาคารแห่งชาติอูเครน เมื่อเศรษฐกิจรัสเซียกับอูเครนแย่ ยูเชนโคจึงเริ่มพูดเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับตะวันตก พอแกพูดประโยคพวกนี้ก็มีมือที่มองไม่เห็นรีบมาสนับสนุนให้แกเป็นนายกรัฐมนตรี

ทันทีที่เป็นนายกฯ ยูเชนโคปฏิรูปเศรษฐกิจ (แก้ภาวะเงินเฟ้อ) ปราบนักธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีเส้นสาย การกระทำของยูเชนโคทำให้กลุ่มอิทธิพลไม่ชอบ รวมตัวกันต่อต้านและปลดยูเชนโคออกจากตำแหน่งได้สำเร็จ

อาจารย์นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัยกับพวกขับรถตระเวนไปตามดินแดนต่างๆของอูเครนหลายครั้ง พบความแตกต่างของประเทศนี้อย่างสุดขั้ว ภาคใต้และภาคตะวันออกเป็นพวกอูเครนที่โปรรัสเซียอย่างมาก แต่พวกที่อยู่ทางตะวันตก โดยเฉพาะพวกที่อยู่ใกล้กับโปแลนด์ พวกนี้โปรสหรัฐฯและสหภาพยุโรป

ยูเชนโคซึ่งโปรตะวันตกออกสร้างคะแนนนิยมในภูมิภาคตะวันตกของอูเครน และสร้างกลุ่มการเมืองผสมที่เรียกว่านาชาอูเครยินา ซึ่งแปลว่าอูเครนของเรา พอถึง ค.ศ.2004 ยูเชนโคกับวิคเตอร์ ยานูโควิชก็ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี

...

สหรัฐฯและสหภาพยุโรปถือหางยูเชนโค รัสเซียถือหางยานูโควิช ตอนนั้นหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยาของสหรัฐฯและตะวันตก ช่วยเข้าไปปั่นกระแสยูเชนโคจนคะแนนมาดีมาก ตอนนั้นพวกที่ต่อต้านยูเชนโคเข้าไปลอบวางยาพิษด้วยทีซีดีดีไดออกซิน พออาการร่อแร่ก็มีการแอบพาตัวยูเชนโคไปรักษาที่ออสเตรีย

ผลการเลือกตั้ง ยานูโควิชชนะ พวกสื่อตะวันตกประโคมข่าวว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างมโหฬาร ประชาชนที่อยู่ในภูมิภาคตะวันตกของอูเครน (ซึ่งโปรสหรัฐฯและสหภาพยุโรป) ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง มีเงินจากภายนอกเข้ามาจัดการการชุมนุมประท้วงต่อต้านทั่วประเทศที่เรียกกันว่าการปฏิวัติสีส้ม

การต่อสู้กันระหว่างพวกที่โปรสหรัฐฯและยุโรปกับพวกที่โปรรัสเซียดำเนินไปอย่างรุนแรงมาก ศาลสูงจึงตัดสินเมื่อ 3 ธันวาคม 2004 ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และจัดการเลือกตั้งใหม่ ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ยูเชนโคชนะและปฏิญาณตนเป็นประธานาธิบดีเมื่อ 23 มกราคม 2005

ทันทีที่ยูเชนโคได้เป็นผู้นำอูเครน แกก็บินไปเยือนประเทศตะวันตกทั้งหลายเพื่อผลักดันอูเครนให้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต

ยูเชนโคตั้งนางยูเลีย ตีโมเชโค เป็นนายกรัฐมนตรี แรกๆ คนก็เห่อกันมาก เพราะนางตีโมเชโคเป็นคนสวย แต่ตอนหลังมีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันรุนแรง ยูเชนโคจึงสั่งปลด

หลังจากยูเชนโคหมดวาระประธานาธิบดี อาจารย์นิติภูมิธณัฐได้รับชวนให้ไปคุยกับแกในกรุงคีฟ ซึ่งบทสนทนาส่วนใหญ่ไม่ควรจะนำออกมาเปิดเผยต่อโลกภายนอก

ที่พอเปิดเผยได้เป็นเรื่องส่วนตัว เช่น ตอนที่ถูกวางยาพิษทีซีดีดีไดออกซินจนหน้าตาบวมปูดจะตายมิตายแหล่ คุณหายจากอาการนี้ได้อย่างไร

ยูเชนโคตอบว่า หายได้จากน้ำผึ้งที่มาจากผึ้งตัวเล็กๆในภาคตะวันออกของประเทศไทย

อาจารย์นิติภูมิธณัฐถามว่าใครแนะนำ

ยูเชนโคตอบว่า เพื่อนของแกที่ชื่อบิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯเป็นผู้แนะนำ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com

คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม