สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณีคดีสะเทือนขวัญที่นักเรียนชายวัย 15 ปี เปิดฉากใช้ปืนพกซิกซาวเออร์ SP2022 ขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงที่โรงเรียนมัธยมออกซ์ฟอร์ด ในเมืองออกซ์ฟอร์ด รัฐมิชิแกน ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย เป็นนักเรียนชายและหญิงวัย 14-17 ปี และบาดเจ็บอีก 7 คน นับเป็นเหตุกราดยิงครั้งร้ายแรงที่สุดอีกครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯปีนี้

โดยเมื่อ 2 ธ.ค. อัยการโอ๊กแลนด์ เคาน์ตี ได้แถลงข่าวการตั้งข้อหาและดำเนินคดีต่ออีธานครัมบลีย์ นักเรียนชายชั้นปีที่ 2 มือปืนผู้เหนี่ยวไกสังหารโหด ในฐานะผู้ใหญ่ โดยตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนล่วงหน้า 4 กระทง ก่อการร้ายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 กระทง, ทำร้ายร่างกายด้วยเจตนาฆ่า 7 กระทง รวมทั้งครอบครองอาวุธปืนเพื่อใช้ในการกระทำความผิดทางอาญาอีก 12 กระทง และยังอาจมีการตั้งข้อหาอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งคาเรน แมคโดนัลด์ อัยการโอ๊กแลนด์ เคาน์ตี ระบุว่า เป็นการกระทำที่ถูกไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน ไม่ใช่การกระทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ สำนักงานอัยการมีหลักฐานดิจิทัลจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องสงสัยได้วางแผนการโจมตีก่อนเกิดเหตุ โดยตัวอย่างหนึ่งเป็นวิดีโอที่ผู้ต้องสงสัยพูดถึงการฆ่านักเรียนในคืนก่อนเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบบันทึกในกระเป๋าเป้สะพายหลังที่มีรายละเอียดถึงความปรารถนาในการยิงเพื่อปลิดชีวิตนักเรียนในโรงเรียนด้วย

ด้านนายไมเคิล บูชาร์ด นายอำเภอโอ๊กแลนด์ เคาน์ตี ยืนยันว่า การตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ที่ยังเป็นผู้เยาว์ในฐานะผู้ใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว ซึ่งผู้ลงมือต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเขาเอง ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาไม่เคยมีพฤติกรรมที่น่าสงสัยจนถูกตำรวจหรือโรงเรียนจับตามอง และยังเสริมด้วยว่าไม่มีหลักฐานว่าเคยถูกเพื่อนกลั่นแกล้งแต่อย่างใด ทั้งนี้ ครัมบลีย์จะถูกส่งตัวจากศูนย์กักกันเด็กและเยาวชนเพื่อไปยังเรือนจำโอ๊กแลนด์ เคาน์ตี แทน

...

นายอำเภอยังกล่าวต่อว่า ทีมสืบสวนพบว่าผู้ต้องสงสัยบรรจุกระสุนในปืนพกที่พ่อของเขาเพิ่งซื้อมาก่อนหน้าไม่กี่วันในห้องน้ำ จากนั้นก็เดินออกมาที่โถงทางเดินแล้วเหนี่ยวไกสาดกระสุนมากกว่า 30 นัด เป็นการยิงตามอำเภอใจ ไม่ได้มุ่งเป้าโดยเฉพาะเจาะจง ยังมีรายงานอีกว่า ในระหว่างเกิดเหตุ เทต ไมร์นักเรียนชายวัย 16 ปี นักฟุตบอลของโรงเรียน หนึ่งในผู้เสียชีวิต พยายามปลดอาวุธจากครัมบลีย์จนถูกยิงและเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

ขณะนี้มีผู้ลงชื่อใน Change.org เพื่อเรียกร้องให้โรงเรียนเปลี่ยนชื่อสนามฟุตบอลตามชื่อเทต เพื่อเป็นการยกย่องถึงความเสียสละและความกล้าหาญมากกว่า 75,000 คนแล้ว.