ขณะนี้หลายประเทศได้ผ่อนคลายนโยบายควบคุมพรมแดนและเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวกันแล้ว เมื่ออัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น ยิ่งใกล้ปลายปีเหล่านักท่องเที่ยวก็จะมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจ หลังเผชิญความยากลำบากในช่วงที่โรคระบาดมาเยือน แม้จะยังมีสถานการณ์โควิด-19 อยู่ในหลายประเทศและหลายภูมิภาค

สถานที่แห่งหนึ่งที่อาจกลายเป็นจุดหมายปลายทางดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในอนาคตก็เช่นบริเวณขั้วโลก ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้มีการสร้างสถิติไว้อีกแล้วสำหรับเครื่องบินแอร์บัส รุ่น A340 ทำประวัติศาสตร์สามารถจอดลงบนรันเวย์น้ำแข็งของดินแดนแอนตาร์กติกาหรือขั้วโลกใต้เป็นครั้งแรก และจอดได้อย่างปลอดภัย บรรดาลูกเรือและผู้โดยสารต่างยินดีปรีดา ปรบมือกันกึกก้องทั้งลำ

นกเหล็กแอร์บัส A340 เป็นเครื่องบินของสายการบินไฮ ฟลาย ถูกเช่าเหมาลำโดย Wolf’s Fang เป็นรีสอร์ตสุดหรูแห่งใหม่ที่ขั้วโลกใต้ เครื่องบินลำนี้บรรทุกเสบียงที่จำเป็นจำนวนมากไปยังรีสอร์ตดังกล่าว โดยทะยานออกจากเมืองเคปทาวน์ในแอฟริกาใต้ มายังแอนตาร์กติกาด้วยระยะทาง 4,500 กิโลเมตรใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง

Wolf’s Fang ได้ทำลานบินลงจอดด้วยการแกะสลักร่องบนรันเวย์น้ำแข็งขนาด 3 กิโลเมตร เพื่อให้เครื่องบินยึดเกาะพื้นได้ดีขึ้น ความหนาของน้ำแข็ง 1.6 กิโลเมตร สามารถทนต่อน้ำหนักเครื่องบินลำนี้ที่บรรทุกข้าวของและเจ้าหน้าที่ของ Wolf’s Fang มาเต็มลำได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งรันเวย์ของรีสอร์ต Wolf’s Fang ถูกกำหนดให้เป็นสนามบินระดับ C นั่นหมายความว่ามีเพียงนักบินที่มีความเชี่ยวชาญสูงเท่านั้นที่สามารถบินไปที่นั่นได้ เนื่องจากสภาพอากาศที่รุนแรงแถมปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือแสงสะท้อนจากน้ำแข็ง และระบบแนะนำการลงจอด

แสงสะท้อนจากหิมะและน้ำแข็งจัดเป็นอันตรายใหญ่ที่สุดสำหรับการลงจอดของเครื่องบิน เพราะแสงสะท้อนนั้นมหาศาล ต้องมีแว่นตาที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ปรับสายตาระหว่างมุมมองภายนอกกับเครื่องมือวัด

...

มีบันทึกว่าเที่ยวบินแรกที่ไปยังแอนตาร์กติกาคือเครื่องบินเดี่ยวล็อกฮีด เวกา 1 (Lockheed Vega 1) ในปี พ.ศ.2471 ขับโดยจอร์จ ฮูเบิร์ต วิลกินส์ นักบินและนักสำรวจของกองทัพออสเตรเลีย ทั้งนี้ แอนตาร์กติกายังคงไม่มีสนามบินมาจนถึงปัจจุบัน แต่มีรันเวย์ประมาณ 50 รันเวย์ในทวีป ซึ่งถูกใช้โดยนักวิจัยและผู้มาเยือนคนอื่นๆ.

(ภาพจาก youtube)

ภัค เศารยะ