หนุ่มวัย 24 ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ บุกชิงทอง หนัก 205 บาท ในห้างย่านมหาชัย เมืองสมุทรสาคร แต่หนียังไม่ทันจะพ้นหน้าห้าง ถูกวิน จยย.พลเมืองดีใจเด็ด ช่วยกันสกัด ขี่รถพุ่งชน ตะครุบตัวส่งตำรวจดำเนินคดี

เมื่อเวลาประมาณ 19.38 น.ของวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เกิดเหตุชิงทองที่ห้างทองบางกอกโกลด์ส สาขาโลตัส มหาชัย 2 ม.8 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยคนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายด้วยเสื้อคลุมไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อคสีขาวปิดบังใบหน้า สวมถุงมือผ้า นุ่งกางเกงขายาวสีดำ กระโดดข้ามตู้กระจกหน้าร้าน บุกเข้าไปชิงทองรูปพรรณบนแผงโชว์ที่อยู่ด้านหลังของพนักงานสาว 3 คน ขณะกำลังอยู่หน้าร้าน โดยกวาดสร้อยคอทองคำใส่กระเป๋าสะพายไปได้ 84 เส้น รวมน้ำหนัก 205 บาท จากนั้นคนร้ายได้กระโดดออกทางเดิมวิ่งหลบหนีไป

ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ศูนย์วิทยุนรสิงห์ สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจึงรีบระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับ แต่ปรากฏว่าคนร้ายหนีไปได้ยังไม่พ้นหน้าห้าง ก็ถูกพลเมืองดีที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง 3 – 4 คน ช่วยกันตามตะครุบตัวไว้ได้ และรอส่งตัวคนร้ายพร้อมของกลางให้กับ พ.ต.อ.วรพล ยิ่งเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงานป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนฯ ที่รุดมายังที่เกิดเหตุ

โดยเบื้องต้นพบในกระเป๋าสะพายของคนร้ายมีสร้อยคอทองคำที่ชิงมาทั้งหมด อีกทั้งยังมีมีดพับ 1 เล่ม อาวุธปืนปลอม 1 กระบอก และระเบิดทำมือ (ประทัดยักษ์) อีก 2 อัน ทราบชื่อต่อมาคือ นายคำพันธ์ ศรีหาสุข อายุ 24 ปี ที่อยู่ 244 ม.2 ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี นอกจากนี้จากการตรวจสอบยานพาหนะที่คนร้ายจะใช้ขับหลบหนีนั้น ยังพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกพ่นสีสเปรย์ให้เป็นสีขาวทั้งคัน และถูกถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก อีกทั้งยังพบหมุดปักกระดาษที่คนร้ายเตรียมไว้โรยบนพื้นหากมีใครขับรถไล่ตามอีกด้วย

...

ขณะที่จากการสอบถามนายคำพันธ์ฯ คนร้ายรายนี้ ยังไม่ยอมให้ปากคำใดๆ ถึงสาเหตุของการชิงทอง พูดจาคล้ายกับคนเลื่อนลอยไม่รู้เรื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปให้พนักงานร้านทองชี้ตัว ก่อนที่จะนำตัวไปทำการสอบปากคำต่อไปที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร

จากการสอบถามพลเมืองดีที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง เล่าว่า ตนเองกำลังจะขึ้นรถขับกลับบ้านแล้ว แต่เห็นคนร้ายวิ่งออกมาแล้วมีคนวิ่งตาม โดยคนร้ายได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขับออกมาทางที่ตนยืนอยู่ ตนจึงได้ตัดสินใจขับรถพุ่งชน จนจักรยานยนต์ของคนร้ายล้มลง จากนั้นคนร้ายก็ยังคงวิ่งหนีต่อไป พวกจักรยานยนต์รับจ้างที่นั่งอยู่เห็นเหตุการณ์จึงได้ช่วยกันวิ่งไล่ตามไป โดยมีคนหนึ่งถีบคนร้ายลงคลอง พอคนร้ายตะกายขึ้นฝั่งคนที่เหลือก็ช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึง