"ตำรวจไซเบอร์" บุกรวบสาวทรงซ้อ ปล่อยเงินกู้ดอกลอยโหด คิดอัตราร้อยละ 300 ส่งช้าปรับชั่วโมงละ 50 บาท สอบสวนยอมรับสารภาพ พบมีคนตกเป็นเหยื่อนับร้อยราย 

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 67 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ยิ่งรัตน์ สอาดยิ่ง รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพชร รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ ทัพวงษ์ รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 และเจ้าหน้าที่สืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.5 นำหมายค้นศาลจังหวัดหลังสวน ที่ 1/2567 ลงวันที่ 9 ม.ค. 2567 ค้นบ้านหลังหนึ่ง ถ.ประชาราษฎร์ ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมจับกุม น.ส.ศิริรัตน์ มาแจ้ง อายุ 24 ปี ชาว ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมของกลางสมุดสำหรับไว้จดรายชื่อลูกค้า ยอดเงินต้น และดอกเบี้ย จำนวน 6 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ใช้สำหรับการโพสต์ปล่อยกู้เงินและทวงเงินลูกหนี้ และสัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 6 ชุด

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบ ผ่านเฟซบุ๊กลงในกลุ่มสาธารณะ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีคนกดถูกใจกว่า 300 คน อีกทั้งยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกนับ 100 ครั้ง จากข้อมูลของผู้เสียหายทราบว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 ผู้เสียหายได้กู้ยืมเงินจากบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่ง จำนวน 6,000 บาท โดยมีกำหนดว่าผู้กู้เงินต้องจ่ายดอกเบี้ยลอยวันละ 600 บาท ก่อนเวลา 16.00 น. ของแต่ละวัน จนครบ 10 วัน หากจ่ายล่าช้าจะถูกปรับชั่วโมงละ 50 บาท และหากปล่อยข้ามวันจะต้องถูกปรับวันละ 500 บาท เมื่อถึงวันผู้เสียหายต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นจำนวนเงิน 6,600 บาท แต่ผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาจ่ายได้ทันตามกำหนด จึงจำเป็นต้องยอมจ่ายแค่ดอกเบี้ยเรื่อยมา โดยเมื่อคำนวณเฉพาะดอกเบี้ยที่จ่ายไป ตั้งแต่วันที่กู้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 รวมเป็นเงินประมาณ 226,920 บาท หรือคำนวณอัตราดอกเบี้ยได้ประมาณร้อยละเกือบ 300 ต่อเดือน

...

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สอท.5 ลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่า น.ส.ศิริรัตน์ เป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก และเป็นเครือข่ายแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดในพื้นที่ จ.ชุมพร ซึ่งมักมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้ลูกค้ามากู้เงินผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเน้นเลือกปล่อยกู้ให้เฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงหน้าตาดี ที่อยู่ในพื้นที่ จ.ชุมพร เนื่องจากสามารถติดตามทวงถามได้ง่าย เพราะลูกค้ากลุ่มนี้กลัวที่จะโดนคุกคามและโพสต์ประจานให้อับอาย หากไม่สามารถจ่ายเงินคืนตามเงื่อนไขได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นศาลและเข้าจับกุมตัว

จากการสอบสวน น.ส.ศิริรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำมาประมาณ 1 ปี โดยกู้เงินจากแหล่งอื่นเพื่อมาปล่อยกู้ดอกโหดอีกทอดหนึ่ง จากหลักฐานพบว่ามีลูกค้าตกเป็นเหยื่ออีกนับร้อยราย นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าผู้ต้องหาเคยโดนดำเนินคดีกรณีที่นำภาพถ่ายลูกค้า ที่ไม่ยอมคืนเงินไปติดประจานในหมู่บ้านอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา "ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเอกสาร และแชตหลักฐานเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินนอกระบบอีกหลายรายการ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป