เลขาฯ ศาลยุติธรรม เร่งแก้ปัญหากำลังรักษาความปลอดภัยในศาล ตามนโยบาย ปธ.ศาลฎีกา ต้องไม่ประมาท หละหลวม อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยทุกชนิดต้องพร้อมใช้งาน
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยรัดกุมบริเวณศาลว่า จากเหตุที่เกิดที่ผ่านมา เรากำลังตรวจสอบให้ทราบสาเหตุที่แท้จริง เพื่อมาตรการความเข้มงวดรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลที่รัดกุม โดยการดูแลความเรียบร้อยในศาลมีด้วยกัน 3 ส่วน ส่วนผู้ต้องขังจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากกรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมดูแลความปลอดภัยบริเวณศาล และในส่วนของศาลเองมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ที่จัดสรรการจ้างมาจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ซึ่งไม่มีอาวุธประจำกาย จะดูแลความเรียบร้อยทั่วไปบริเวณศาล ซึ่งปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด ขอบคุณทั้งราชทัณฑ์ และ ตร.ร่วมจัดเจ้าหน้าที่มาดูแลในส่วนนี้ก็ต้องประสานความร่วมมือทุกส่วนต่อไป
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนของศาล สำนักงานศาลยุติธรรมกำลังพัฒนาระบบเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ คอร์ทมาแชล (COURT MARSHAL) ปัจจุบันนี้มีข้าราชการที่รับโอนมาผ่านการฝึกอบรมพร้อมปฏิบัติหน้าที่แล้วทั้งสิ้น 35 ราย โดยในปี 2563 เราจะคัดเลือกบุคคลให้ได้อย่างน้อย 300 คนเพื่อที่จะนำอัตรากำลังในส่วนนี้ที่ศาลจัดดำเนินการเอง กระจายไปประจำการยังศาลภาคต่างๆ ทั่วประเทศที่มีอยู่ 275 แห่ง ตั้งเป้าจัดกำลังเจ้าพนักงานตำรวจศาล หรือ คอร์ทมาแชล ประจำศาลภูมิภาคแต่ละศาล 1-2 นาย เป็นหนึ่งในการแก้ปัญหาอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยของศาลต่างๆ ด้วยความเข้มงวดรัดกุมยิ่งขึ้น
...
"ด้านนโยบายเช้าวันนี้ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์ร่วมกับผู้อำนวยการศาลต่างๆ ทั่วประเทศ กำชับมาตรการความเข้มงวด รัดกุมในการรักษาความปลอดภัยและความเรียบร้อยบริเวณศาลเช่นกันตามนโยบายประธานศาลฎีกา ต้องไม่ประมาท หละหลวม ต้องทำการตรวจเข้มด้วยความระมัดระวัง รวมทั้งได้เน้นย้ำเรื่องการตรวจสอบอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยทุกชนิดที่ติดตั้งไว้ทุกศาลแล้วต้องพร้อมใช้งาน ทั้งกล้องวงรปิด และเครื่องตรวจอาวุธขนาดใหญ่ที่ติดตั้งบริเวณทางเข้าศาล และเครื่องตรวจอาวุธชนิดใช้มือถือขนาดเล็ก ทั้งนี้เรื่องมาตรการปลอดภัยบริเวณศาล หากตรวจสอบพบข้อบกพร่องจะดำเนินการป้องกันทันที" นายสราวุธ กล่าว.