จากศัตรูประชาชนสู่แขกคนสำคัญ เงินไม่ได้ให้กันฟรี ๆ ผู้บริหารบิ๊กเทคเหล่านี้หวังอะไรจากทรัมป์

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จากศัตรูประชาชนสู่แขกคนสำคัญ เงินไม่ได้ให้กันฟรี ๆ ผู้บริหารบิ๊กเทคเหล่านี้หวังอะไรจากทรัมป์

Date Time: 3 ก.พ. 2568 17:03 น.

Video

"ROCTEC กับการเติบโตครั้งสำคัญ เมื่อ BTS เข้าถือหุ้น" | Money Issue

Summary

  • หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเป็นสมัยที่ 2 เหล่าผู้นำที่ทรงอิทธิพลในวงการเทคโนโลยีระดับโลกต่างก็ปรากฏตัวในพิธีสาบานตน แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจากทรัมป์กลับไม่ใช่แค่เพียงได้รับเชิญไปงานเลี้ยงของรัฐบาลใหม่ เพราะสิ่งที่พวกเขาหวังจะได้รับจากทรัมป์ที่ดำรงตำแหน่งไปอีก 4 ปีนี้คือสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อธุรกิจของพวกเขา แล้วใครบ้างที่ได้ผลประโยชน์? และสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากทรัมป์คืออะไร?

Latest


หลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและกลายเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เหล่าบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอเมริกาที่ได้เข้าร่วมในพิธีสาบานตนของทรัมป์ และแน่นอนว่าแต่ละคนหวังว่าจะได้อะไรมากกว่าแค่การได้รับเชิญไปงานเลี้ยงเปิดตัวรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ

เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มักจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับบริษัทเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลในโลกและมองว่าผู้นำของบริษัทเป็นเหมือนแม่ทัพของศัตรู โดยทรัมป์เคยกล่าวว่า Facebook คือ “ศัตรูของประชาชน” แต่หลังจากที่พวกเขาได้ควักกระเป๋าบริจาคเงินสนับสนุนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อทรัมป์ เหล่าผู้นำทางเทคโนโลยีก็ถูกจัดให้เป็นแขกผู้มีเกียรติในพิธีสาบานตนของทรัมป์เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา

แม้ว่านี่จะเป็นเหมือนการเข้าร่วมงานเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองทั่วไป แต่เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่เพียงแค่การได้รับเชิญไปงานเท่านั้น เพราะมันมีสิ่งที่พวกเขาต้องการจากการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ในสี่ปีนี้ และนี่คือภาพรวมที่เหล่าผู้นำบิ๊กเทคฯ คาดหวัง

Elon Musk (อีลอน มัสก์)
ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX เจ้าของแพลตฟอร์ม X

  • สิ่งที่เขาให้: มัสก์บริจาคอย่างน้อย 245 ล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญเลือกตั้งของทรัมป์และ PACs ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งสนับสนุนทรัมป์อย่างต่อเนื่องทั้งทางส่วนตัวและผ่านเครือข่ายโซเชียล X
  • สิ่งที่เขาได้รับ: มัสก์ไม่เพียงแค่มีโอกาสเข้าถึงทรัมป์โดยตรง แต่เขายังได้รับตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงการบริหารรัฐบาลซึ่งมีสำนักงานในทำเนียบขาวและที่อยู่อีเมลอีกด้วย แม้ว่าอำนาจของกระทรวงนี้จะยังไม่ชัดเจน แต่สิ่งเหล่านี้ก็แสดงให้คนทั้งโลกเห็นถึงความใกล้ชิดระหว่างเขากับทรัมป์ได้แล้ว
  • สิ่งที่เขาต้องการ: รัฐบาลกลางคือลูกค้ารายใหญ่ที่สำคัญที่สุดสำหรับ สเปซเอ็กซ์ และ สตาร์ลิงก์ที่เป็นบริษัทย่อยดาวเทียมของมัสก์ ซึ่งเขายังหวังว่า ทรัมป์จะผลักดันการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สามารถส่งเสริมเทสลา, สนับสนุนการเติบโตของสตาร์ลิงก์ และลดอุปสรรคด้านกฎระเบียบสำหรับ สเปซเอ็กซ์ และ Boring Co. รวมถึงการช่วยสนับสนุนโครงการที่เขาหวังจะส่งนักบินอวกาศไปดาวอังคารให้บรรลุเป้าหมายในชีวิตของมัสก์

Jeff Bezos (เจฟฟ์ เบซอส)
ผู้ก่อตั้ง Amazon และ Blue Origin เจ้าของวอชิงตันโพสต์

  • สิ่งที่เขาให้: อเมซอนบริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการจัดงานสาบานตนของทรัมป์, วอชิงตันโพสต์ไม่สนับสนุนผู้สมัครใด ๆ ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเพื่อหลีกเลี่ยงการสร้าง “อคติ” ที่อาจส่งผลต่อผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
  • สิ่งที่เขาได้รับ: เบซอสได้รับที่นั่งสำคัญในพิธีสาบานตน พร้อมกับที่นั่งสำหรับคู่รักของเขา ลอเรน ซานเชซ และอเมซอนยังได้รับสิทธิ์พิเศษในการผลิตสารคดีที่เกี่ยวกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์สำหรับโปรเจ็กต์นี้อีกด้วย
  • สิ่งที่เขาต้องการ: อเมซอนเคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการผูกขาดอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นเบซอสต้องการให้คดีผูกขาดของอเมซอนได้รับการยุติลงโดยไม่ต้องไปสู่การพิจารณาคดีในศาล นอกจากนี้ อเมซอนยังต้องการการช่วยเหลือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแรงงานและการต่อรองสัญญากับกองทัพผ่านบริการคลาวด์ที่กำลังมีการแย่งชิงสัญญากันอยู่

Mark Zuckerberg (มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก)
ซีอีโอของ Meta

  • สิ่งที่เขาให้: เมตาบริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการจัดงานสาบานตน และสนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย รวมถึงทำการปรับเปลี่ยนนโยบายต่าง ๆ ของเมตาให้ตรงตามแนวทางที่ทรัมป์ต้องการ
  • สิ่งที่เขาได้รับ: ทรัมป์ไม่พูดถึงการจองจำคุกซัคเคอร์เบิร์กอีกต่อไป แต่กลับให้เขาได้นั่งในที่นั่งสำคัญในพิธีสาบานตน ซึ่งหมายถึงพวกเขาได้จับมือกลายเป็นพันธมิตรกันแล้ว
  • สิ่งที่เขาต้องการ: ซัคเคอร์เบิร์กต้องการผ่อนปรนในกรณีที่ FTC ฟ้องร้องเกี่ยวกับการผูกขาดและซัคเคอร์เบิร์กยังถูกบีบบังคับให้ขาย WhatsApp รวมถึง Instagram ซึ่งจะมีผลในเดือนเมษายนที่กำลังจะถึงนี้ และเขายังคาดหวังการสนับสนุนจากรัฐบาลในการยอมรับการพัฒนา AI แบบโอเพ่นซอร์ส และการแบน TikTok ที่สวนทางต่อผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจในวงการเทคโนโลยีคนอื่น ๆ ที่กำลังเข้าหาประธานาธิบดี

Tim Cook (ทิม คุก)
ซีอีโอของ Apple

  • สิ่งที่เขาให้: ทิมบริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการจัดงานสาบานตน
  • สิ่งที่เขาได้รับ: ทรัมป์ชื่นชมทิมในฐานะ “นักธุรกิจที่ยอดเยี่ยม” และลดภาษีศุลกากรสำหรับส่วนประกอบที่แอปเปิ้ลนำเข้าจากจีนในสมัยการดำรงตำแหน่งครั้งแรก และได้รับที่นั่งในพิธีสาบานตน
  • สิ่งที่เขาต้องการ: ทิมหวังว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขากับทรัมป์จะช่วยลดผลกระทบจากสงครามการค้ากับจีน เพราะแอปเปิลมีโอกาสที่จะได้รับเสียหายอย่างหนักในสงครามการค้ากับจีน เนื่องจาก 80% ของไอโฟนถูกประกอบขึ้นที่จีน นอกจากนี้เขายังหวังให้ลดการสอบสวนเรื่องผูกขาด เนื่องจากคดีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์จะสามารถตัดสินใจยุติหรือยกเลิกคดีนี้ได้

Sundar Pichai (ซุนดาร์ พิชัย)
ซีอีโอของ Alphabet

  • สิ่งที่เขาให้: อัลฟาเบทบริจาค 1 ล้านดอลลาร์ให้กับคณะกรรมการจัดงานสาบานตน
  • สิ่งที่เขาได้รับ: ซุนดาร์ได้ที่นั่งระหว่างเบซอสและมัสก์ในพิธีสาบานตน ซึ่งเซอร์เกย์ บรินผู้ร่วมก่อตั้ง Google ก็เข้าร่วมในพิธีด้วยเช่นกัน
  • สิ่งที่เขาต้องการ: ซุนดาร์ต้องการให้คดีผูกขาดที่มีต่อกูเกิลได้รับการพิจารณาใหม่ ซึ่งผู้ที่จะตัดสินคดีนี้ได้คือผู้ที่มาจากดุลยพินิจของทรัมป์ที่จะแต่งตั้ง รวมถึงการสนับสนุนจากรัฐบาลในการกำหนดกฎระเบียบเกี่ยวกับ AI โดยไม่ต้องสร้างหน่วยงานใหม่

Shou Zi Chew (โจวโซ่วจือ)
ซีอีโอของ TikTok

  • สิ่งที่เขาให้: เจฟฟ์ ยาส มหาเศรษฐีผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน ถือหุ้น 15% ใน ByteDance ประเทศจีน ได้กลายเป็นพันธมิตรและที่ปรึกษาใกล้ชิดของทรัมป์ หลังจากมีการพยายามแบน TikTok ทรัมป์ได้กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าตอนนี้เขามองว่า TikTok มีประสิทธิภาพในการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นมิตรมากกว่าศัตรู และเขาหวังว่าจะสนับสนุนการร่วมทุนระหว่าง ByteDance กับนักลงทุนชาวอเมริกันคนอื่น ๆ
  • สิ่งที่เขาได้รับ: โจวโซ่วจือนั่งอยู่ด้านหลังเหล่าผู้นำเทคโนโลยีคนอื่น ๆ ในพิธีสาบานตน และทรัมป์ยังมีการลงนามในคำสั่งผู้บริหารที่ตั้งใจจะชะลอการบังคับใช้กฎหมายที่ห้าม TikTok เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม เนื่องจากไม่พบเจ้าของใหม่ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับจีน
  • สิ่งที่เขาต้องการ: แม้ว่าจะได้รับการชะลอกฎหมายเอาไว้ แต่ TikTok ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกแบนในสหรัฐฯ ได้ทุกเมื่อ ดังนั้นโจวโซ่วจือจึงหวังว่าจะได้พบทางออกอย่างถาวรจากปัญหานี้เพราะจากสนับสนุนจากทรัมป์

ที่มา: Bloomberg

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ