จับตาท่าทีสหรัฐฯ หลัง DeepSeek  ยอดผู้ใช้รายวันพุ่ง 30 เท่าใน 3 เดือน หลายหน่วยงานรัฐนำร่องแบนแล้ว

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตาท่าทีสหรัฐฯ หลัง DeepSeek ยอดผู้ใช้รายวันพุ่ง 30 เท่าใน 3 เดือน หลายหน่วยงานรัฐนำร่องแบนแล้ว

Date Time: 3 ก.พ. 2568 13:22 น.

Video

“โกษาปาน ดิสติลเลอรี่” สุรากลั่นเชื่อมวัฒนธรรม | BrandStory Special EP x เมรัยไทยแลนด์

Summary

  • จับตาทางการสหรัฐฯ อาจออกมาตรการหรือกฎหมายควบคุม หลังคนอเมริกันแห่ใช้ DeepSeek โมเดล AI จีนต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Semrush แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ ระบุว่า ยอดผู้ใช้งาน ต่อวันของ DeepSeek อยู่ที่ 71,200 คน พุ่งขึ้นกว่า 30 เท่าภายใน 3 เดือน

Latest


ท่ามกลางความกังวลต่อเทคโนโลยีจีนที่กระทบความมั่นคงของชาติ การจัดเก็บและส่งต่อข้อมูลกับจีนแผ่นดินใหญ่และการแข่งขันชิงความโดดเด่นเหนือเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา

ข้อมูลรายงานว่า ผู้ใช้ ChatGPT ลดลงไปกว่าสิบล้านคนภายในสามเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ DeepSeek โมเดล AI จากจีนที่เป็นกระแสไปทั่วโลกในตอนนี้มียอดผู้เข้าใช้งานเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังยอดดาวน์โหลดพุ่งสูงสุดใน App Store ของ Apple แซงหน้าคู่แข่งทั้งวงการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อ่านเพิ่มเติม 

ข้อมูลล่าสุดจาก Semrush แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์ ระบุว่า ยอดผู้เข้าเฉลี่ยต่อวันของ ChatGPT อยู่ที่ 22.1 ล้านคน ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2024 ลดลงเหลือ 14.9 ล้านคนในวันที่ 19 มกราคม 2025 โดยยอดผู้ใช้งาน DeepSeek เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จาก 2,300 คนต่อวัน ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2024 สู่ 71,200 คนในวันที่ 19 มกราคม 2025 หรือคิดเป็นการพุ่งขึ้นกว่า 30 เท่าภายใน 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ สะเทือน

ทั้งนี้ Semrush ระบุว่า DeepSeek ยังต้องพัฒนาอีกมากเพื่อไล่ตามคู่แข่งอย่าง OpenAI โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดผู้ใช้เฉลี่ยต่อวันที่ ChatGPT ที่อยู่ในหลักสิบล้านและยังได้รับเงินก้อนใหญ่จากนักลงทุนทั่วโลกเพื่อพัฒนา AI อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าชื่อเสียงของ DeepSeek ในเรื่องการรีดประสิทธิภาพการเทรนโมเดล AI ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ แต่ได้มาซึ่งผลลัพธ์เทียบเท่าหรือเหนือกว่าจะสร้างความประทับใจให้หลายคนในวงการ แต่หลายฝ่ายกังวลเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูลของ DeepSeek เพราะชาวอเมริกันอาจตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและการโจรกรรมข้อมูล

Dewardric McNeal กรรมการผู้จัดการและนักวิเคราะห์นโยบายอาวุโสของบริษัทจัดการความเสี่ยง Longview Global ผู้ให้คำปรึกษาแก่บริษัทต่างๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์ในประเทศจีน กล่าวว่า โมเดลโอเพนซอร์สของ AI อาจทำให้จีนเข้าถึงห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐฯ ได้ในระดับอุตสาหกรรม ทำให้จีนสามารถเรียนรู้ว่าบริษัทกำลังทำอะไรอยู่และจะมีวิธีแข่งขันอย่างไรเพื่อชัยชนะ

Matt Pearl ผู้อำนวยการโครงการเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ที่ศูนย์การศึกษาด้านยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศ อดีตที่ปรึกษาพิเศษด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของไบเดน กล่าวว่า เราควรกังวลเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์แม้ DeepSeek จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสิ่งที่ถูกเก็บรวบรวมได้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัว แต่ DeepSeek ยังคงอยู่ภายใต้กฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมเสริมว่า เราอาจได้เห็นการลงดาบ AI จีนรายนี้ในเร็ววัน

กล่าวคือ ภายใต้กฎหมายแบน TikTok รัฐบาลสหรัฐฯ มีอำนาจที่จะแบน DeepSeek หากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสจากพรรครีพับลิกันได้ออกคำสั่งแบน DeepSeek ออกจากอุปกรณ์ของหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานภายในเท็กซัส รวมถึงแอปฯ โซเชียลมีเดียยอดนิยมของจีนอย่าง Xiaohongshu หรือที่บางคนเรียกว่า RedNote และ Lemon8

นอกจากนี้ภายในไม่กี่วันหลังจากที่มีรายงานว่า DeepSeek มียอดดาวน์โหลดสูงสุดแซงหน้า ChatGPT หน่วยงานต่างๆ ในสหรัฐฯ ก็เริ่มออกมาตรการห้ามใช้งานภายในหน่วยงานตน ตั้งแต่ NASA ไปจนถึงกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงรัฐบาลอื่น ๆ อย่างอิตาลีและไต้หวันที่มีทีท่าไม่ไว้ใจ DeepSeek ด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม

อ้างอิงข้อมูลจาก CNBC 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ