OpenAI ตั้งเป้าผู้ใช้ 1 พันล้านคนปีหน้า หวัง Apple เป็นป๋าดัน ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

OpenAI ตั้งเป้าผู้ใช้ 1 พันล้านคนปีหน้า หวัง Apple เป็นป๋าดัน ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน

Date Time: 2 ธ.ค. 2567 18:39 น.

Video

"ROCTEC กับการเติบโตครั้งสำคัญ เมื่อ BTS เข้าถือหุ้น" | Money Issue

Summary

  • OpenAI เปิดเกมใหญ่ ตั้งเป้าผู้ใช้ 1 พันล้านคนปีหน้า หวัง Apple เป็นป๋าดัน ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน แบกต้นทุนท่วม - ศึกฟ้องร้องจาก 'มัสก์’

Latest


สำนักข่าว Financial Times รายงานว่า บริษัท OpenAI กำลังเดินหน้าลงทุนครั้งใหญ่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ ๆ พร้อมตั้งเป้าขยายฐานผู้ใช้งานแตะระดับ 1 พันล้านคนในปีหน้า จากปัจจุบันมีผู้ใช้งานรายสัปดาห์อยู่ราว 250 ล้านราย สำหรับแผนการลงทุนของ OpenAI ประกอบด้วย การสร้าง Data Center ของตัวเอง การพัฒนา AI agents และเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI รวมถึงการผนวก ChatGPT เข้ากับอุปกรณ์ของ Apple ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการผลักดันการเติบโตระยะถัดไปของบริษัท นับตั้งแต่เปิดตัว ChatGPT เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา

Sarah Friar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทกล่าวว่า "ในปี 2025 เราจะก้าวขึ้นมาเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยที่ให้บริการผู้บริโภคนับล้าน และหวังว่าจะเป็นพันล้านคนทั่วโลก"

สำหรับ AI agents ซึ่งเป็นผู้ช่วยแบบแชทบอทที่สามารถช่วยทำงานบนเว็บได้ ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลไปจนถึงการจองหรือซื้อสินค้า

Sarah Friar กล่าวว่า "Agentic จะเป็นคำสำคัญแห่งปี มันสามารถเป็นได้ทั้งนักวิจัย ผู้ช่วยที่มีประโยชน์สำหรับคนทั่วไป ในปี 2025 เราจะได้เห็น agents ที่ประสบความสำเร็จตัวแรก ๆ ที่ช่วยผู้คนในชีวิตประจำวัน"

“OpenAI จะระดมทุนเพิ่มทั้งในรูปแบบทุนและหนี้ เนื่องจากกำลังอยู่ในช่วงการเติบโตอย่างมาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง และต้องอยู่แนวหน้าในด้านการพัฒนาโมเดล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าว

OpenAI บริษัทสตาร์ทอัพที่มีอายุเพียง 9 ปี สามารถระดมทุนมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าบริษัท (Valuation) ที่สูงถึง 1.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ Silicon Valley

OpenAI วางแผนลงทุนสร้าง Data Center ในแถบมิดเวสต์และตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ตามการกล่าวอ้างของ Chris Lehane หัวหน้าฝ่ายนโยบายคนใหม่ พร้อมกันนี้เขายังได้เน้นย้ำว่า "ชิป ข้อมูล และพลังงาน" เป็นทรัพยากรสำคัญที่จำเป็นต่อความสำเร็จในการแข่งขันด้าน AI ซึ่งกลยุทธ์นี้สอดคล้องกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google และ Amazon ที่ต่างก็ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตัวเองเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม OpenAI ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร โดยที่ผ่านมาบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เดือนที่ผ่านมา หลังจากเหตุการณ์ที่ Sam Altman ถูกปลดและกลับมาดำรงตำแหน่ง CEO อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้น 5 เท่าเป็นกว่า 2,000 คน

แม้ว่าจะสูญเสียผู้บริหารระดับสูง และผู้ร่วมก่อตั้งไปก็ตาม แต่ก็เป็นการเปิดทางให้สมาชิกใหม่เข้ามา ซึ่งหลายคนในทีมมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทมีจุดมุ่งเน้นสองด้าน ได้แก่ วิสัยทัศน์ด้านการวิจัยในระยะยาว และเป้าหมายด้านผลิตภัณฑ์ในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้เพื่อให้ทันกับค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูงขึ้น

ด้วยสถานะทางการเงินของ OpenAI แล้ว "ยังไม่ใกล้จุดคุ้มทุน" เนื่องจากต้นทุนในการพัฒนาโมเดล AI สูงมาก โดยมีข้อมูลออกมาว่า OpenAI มีค่าใช้จ่ายมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว

นอกจากนี้ OpenAI ยังต้องเผชิญความท้าทายทางการเมืองที่ซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการรับมือกับ Elon Musk อดีตผู้ร่วมก่อตั้งที่ฟ้องร้อง OpenAI และ Microsoft โดยกล่าวหา Altman ว่า "หลอกลวงในระดับที่เทียบได้กับบทละครของเชคสเปียร์"

อย่างไรก็ตาม Chris Lehane หัวหน้าฝ่ายนโยบายคนใหม่ของ OpenAI กล่าวว่า OpenAI และทีมของทรัมป์มีความเห็นตรงกันเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในด้านความมั่นคงของชาติและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ด้วยวิสัยทัศน์ระยะยาว เขาเชื่อว่าหลายปีข้างหน้าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านทางประวัติศาสตร์ของโลก ที่เทคโนโลยีจะพัฒนาเร็วกว่าที่สังคมจะปรับตัวตาม

ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นต้องพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในด้าน AI คล้ายกับโมเดลสาธารณูปโภคไฟฟ้า เพื่อกระจายเทคโนโลยีและผลประโยชน์อย่างเป็นธรรม โดย OpenAI หวังที่จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและหาคำตอบสำหรับความท้าทายเหล่านี้

อ้างอิง Financial Times , Bloomberg




Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ