KBTG เร่งเครื่อง ดัน “Agentic AI” พลิกโฉมองค์กร ตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ธุรกิจทะลุ 10,000 ล้านใน 5 ปี

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

KBTG เร่งเครื่อง ดัน “Agentic AI” พลิกโฉมองค์กร ตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ธุรกิจทะลุ 10,000 ล้านใน 5 ปี

Date Time: 27 พ.ย. 2567 10:54 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • KBTG ประกาศแผนและเป้าหมายปี 2025 เดินหน้าขับเคลื่อน Agentic AI ผสานการทำงานระหว่างมนุษย์และ AI เน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและสร้างประโยชน์ พร้อมตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า

Latest


KBTG ประกาศแผนและเป้าหมายปี 2025 เดินหน้าขับเคลื่อน Agentic AI ผสานการทำงานระหว่างมนุษย์และ AI เน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและสร้างประโยชน์ ตามแนวคิดหลัก “KBTG AI For Thailand” พร้อมตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า

เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท KBTG เล่าย้อนถึงเส้นทางการเปลี่ยนแปลงของ KBTG ว่าก่อนหน้านี้ KBTG ทำการทรานส์ฟอร์มตลอดช่วงที่มีการดิสรัปชั่นเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนทีม วัฒนธรรมองค์กร รูปแบบการทำงาน ปรับด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาค 

จนมาถึงปัจจุบันที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่อีกขั้นของ AI ที่ในองค์กร AI คือสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ กลายเป็นหนึ่งส่วนที่ทุกคนต้องเข้าถึง สุดท้ายแล้วทั้งมนุษย์และ AI จะต้องทำงานด้วยกันได้ จึงเป็นที่มาของ KBTG 3.0 ที่มองว่า “Agentic AI” จะเป็นตัวเข้ามาเปลี่ยนเกม และในโลกของธุรกิจและการทำงาน การปรับตัวให้ทำงานร่วมกับ AI ได้จึงเป็นสิ่งจำเป็น

ตามยุทธศาสตร์ “Human-First x AI-First Transformation” ก้าวสู่เฟสใหม่ของ KBTG ที่จะมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องทำให้ชีวิตดีขึ้น จะมุ่งเน้นการผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันของบุคลากรและ AI ให้ทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ

ดร.โกเมษ จันทวิมล Principal AI Evangelist กล่าวว่า ปัจจุบันบุคลากรของ KBTG ทั้ง 100% มีความเข้าใจใน AI Literacy มีความตระหนักรู้ในการใช้งาน AI มีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย อย่างเช่น KBTG Democratization of AI: K-DAI Council เพื่อจะมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง โดย AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและนำพาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

จิรัฎฐ์ ศรีสวัสดิ์ Assistant Managing Director - Technical Excellence กล่าวถึงผลงานที่ผ่านมาของ KBTG ว่า ภายในองค์กรได้มีการใช้งานเครื่องมือ AI Agent มาช่วยในการทำงาน โดยยกตัวอย่างมา 3 ยูสเคส คือ Coding Assistant, Coding Agent และ Multi-Agent SDLC คือการพัฒนา AI Agent สำหรับช่วยเขียนโค้ด ซึ่งพบว่า ช่วยลดเวลาการทำงานลง เพิ่ม Productivity และยังช่วยลดต้นทุนได้อีกด้วย


Agentic AI คืออะไร?

ในทุกวันนี้ แชทบอตที่เราใช้ถามตอบคำถามกันนั้น คือการพัฒนาของ Generative AI ที่จะมีการ Interact กับผู้ใช้งานผ่านการ Prompt ข้อมูลลงไป เพื่อที่ AI จะตอบกลับมาเป็นภาษาที่มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นทุกวัน

แต่ในส่วนของ Agentic AI หรือ Autonomous AI คือขั้นกว่าของปัญญาประดิษฐ์ที่จะสามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น สามารถทำงานใน Task ที่มีความซับซ้อนขึ้นได้ ไปจนถึงสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจได้เองอัตโนมัติ หรือทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ได้เลย

การ์ทเนอร์ก็เคยกล่าวถึงว่า Agentic AI คือหนึ่งในเทรนด์สำคัญทางเทคโนโลยีของปี 2025 ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับกระบวนการทางธุรกิจ ซึ่งทาง KBTG เองก็ได้เล็งเห็น 3 เทรนด์สำคัญของ Agentic AI โดย ดร.ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล Managing Director ของ KBTG ได้ขึ้นกล่าวถึงเทรนด์ต่าง ๆ ในปี 2025 ได้แก่

  1. AI for Human Intelligence คือ การใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (AI-Driven Business Impact) 
  2. AI Agent เป็นโมเดล AI เฉพาะทางที่สามารถทำงานและตัดสินใจแบบ End-to-end ได้อย่างแม่นยำ 
  3. AI Guardrails คือ การใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยง ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่น 

ตลอดปี 2024 ที่ผ่านมา ดร.มนต์ชัย เลิศสุทธิวงค์ Principal Research Engineer and Head of AI Research กล่าวว่า KBTG ได้มีการทำวิจัยและพัฒนา AI ในหลายด้าน จนผลักดันให้เกิดการนำโซลูชันและใช้งานเครื่องมือเหล่านั้นจริงในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น AINU, THaLLE, Future You, คู่คิด, AI-Enabled VDO Analytics, Document OCR ไปจนถึงการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent หรือโมเดล AI เฉพาะทางสำหรับใช้งานภายในองค์กร

โดยได้มีการสร้างพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ทั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ), สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT), AI Singapore, Google Research, MIT Media Lab และ AI Fund


เปลี่ยนผ่านสู่ 2025 - KBTG จะทำอะไรต่อ?

KBTG ตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายในปี 2029 ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Organization ปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด พร้อมทั้งขับเคลื่อนการสร้าง AI-Driven Innovations เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร

โดยเทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ KBTG คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถปฏิบัติการได้เอง แต่ยังประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น สำหรับในปี 2025 ทาง KBTG จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยยังคงวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง 

เรืองโรจน์ พูนผล กล่าวว่า “ที่ผ่านมา 70% ของการปรับใช้ AI ในธุรกิจ ที่ทำไม่สำเร็จเพราะเอา AI เป็นตัวตั้ง แต่ถ้าเราวาง คน เป็นศูนย์กลาง เมื่อนั้นเราจะไม่ผิดหวัง เราจะรู้ว่าโปรดักซ์ที่ต้องการคืออะไร”

ซึ่ง KBTG มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการทำงานระหว่าง AI และบุคลากรภายในให้มีมากขึ้น เพื่อให้ทั้ง AI มาช่วยมนุษย์ทำงาน ไปพร้อมกับให้มนุษย์ทำงานได้ร่วมกับเทคโนโลยี โดยจะเร่งให้ทั้งระบบมีการทำงานร่วมกับแบบ End-to-End ที่ AI และมนุษย์ทำงานร่วมกันทั้งลูป 100% ซึ่งจะโฟกัสไปที่ 3 แกนหลัก ได้แก่

  • Agentic Platformization: การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent ที่ KBTG พัฒนาใช้เองภายในองค์กร เปรียบเสมือน AI Agent Factory ช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานของ KBTG ซึ่งปัจจุบันองค์กรกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่น ๆ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent 
  • Agentic Orchestration: การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เช่น เบื้องต้นมีการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของ Developer โดยสามารถลดเวลาการทำงานของ Developer เบื้องต้นได้ไม่ต่ำกว่า 20% และมีการสร้างโค้ดด้วย AI ไปแล้ว 500,000 Lines of Code ก้าวต่อไปคือการเพิ่มความสามารถจาก AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน ช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด และทำให้ Software Development Life Cycle รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
  • Agentic Humanization: การเตรียมความพร้อมของคนทั้งในด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุก ๆ วัน


นอกจากนี้ KBTG ยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวน AI Engineers จาก 250 คนเป็น 1,000 คนภายในปีหน้า เพื่อรองรับการเติบโตทางด้าน AI 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ