เปิดวิสัยทัศน์ จูน จรีพร “แม่ทัพใหญ่ WHA Group” จากธุรกิจโกดังสู่อาณาจักรเทคโนโลยี

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดวิสัยทัศน์ จูน จรีพร “แม่ทัพใหญ่ WHA Group” จากธุรกิจโกดังสู่อาณาจักรเทคโนโลยี

Date Time: 20 พ.ย. 2567 19:38 น.

Video

แก้เกมหุ้นไทยตกต่ำ ประธานตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดแผนฟื้นความเชื่อมั่น | Money Issue

Summary

  • จูน-จรีพร แม่ทัพใหญ่ WHA Group จัดงาน “WHA Open House 2024: Explore-Discover-Shape the Future” เผยวิสัยทัศน์ผู้นำธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ไขความสำเร็จที่ไม่มีวันถูกดิสรัปต์ พร้อมบทบาทการเป็นนิคมอุตสาหกรรมที่บิ๊กเทคปักหมุดลงทุน

Latest


ครั้งแรกของ WHA Group กับการเปิดบ้านโชว์ศักยภาพธุรกิจครั้งแรก ตอกย้ำเป้าหมาย “Tech & Sustainable Company” ทรานส์ฟอร์มองค์กรจากธุรกิจโกดังสู่อาณาจักรเทคโนโลยี พร้อมเจาะลึกนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากการดำเนินงานผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลักที่มุ่งสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมระดับโลกอย่างยั่งยืน ได้แก่

  • ธุรกิจโลจิสติกส์ (Logistics) พื้นที่คลังสินค้ารวมขนาดมากกว่า 3,100,000 ตารางเมตร กระจายอยู่ทั้งหมด 70 แห่ง ตลอดจนการเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดคลังสินค้าแบบ Built to Suit และโซลูชันโลจิสติกส์สีเขียวเพื่อธุรกิจยุคใหม่
  • ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Development) จำนวนมากกว่า 13 นิคมฯ รวมพื้นที่กว่า 78,000 ไร่ ขับเคลื่อนด้วยแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (SMART ECO Industrial Estates)
  • ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน (Utilities and Power) นวัตกรรมการบริหารจัดการสาธารณูปโภคและพลังงานด้วยเทคโนโลยี AI เช่น Solar Forecasting, Solar Anomaly Detection, และ RO System Performance Forecasting
  • ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน (Digital Solutions) โครงการดิจิทัลที่สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็น Tech and Sustainable Company และโซลูชันดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ

พร้อมทั้งบทบาทสำคัญของ WHA Group ในการขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การผลักดันภาคการผลิตและขนส่ง การผลักดันเรื่องความยั่งยืนและโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีแห่งยุค AI ที่หลายฝ่ายกำลังจับตามอง เพราะล่าสุดบิ๊กเทคเบอร์ต้นของโลกอย่าง Google ได้ประกาศลงทุนมูลค่ารวม 36,000 ล้านบาทเพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Service โดยเลือกนิคมอุตสาหกรรม WHA ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จังหวัดชลบุรีเป็นสถานที่จัดตั้งในประเทศไทย

นิคมอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

“ถามว่าเราผลิตของบนคลาวด์ได้หรือเปล่า ตราบใดที่เรายังผลิตของในอากาศไม่ได้ นิคมอุตสาหกรรมจะยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของธุรกิจ เพราะนิคมอุตสาหกรรม คือ เรื่องของการผลิต ยิ่งต้องการเทคโนโลยีมากแค่ไหน นิคมอุตสาหกรรมก็ยิ่งจำเป็นมากเท่านั้น”

จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญของนิคมอุตสาหกรรมและจุดยืนของ WHA Group ที่มุ่งสู่การเป็น “Tech & Sustainable Company”

จรีพร เปิดเผยว่า เหตุผลที่ทำให้ WHA มีเป้าหมายใหญ่ในการให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศนิคมอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะภาคการผลิตในโลกอนาคตกำลังเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมระดับโลกต้องการโครงสร้างพื้นฐานการผลิตและขนส่งแบบใหม่ ต้องการนิคมอุตสาหกรรมที่มีองค์ประกอบด้านต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ยังแสดงความมั่นใจว่านิคมอุตสาหกรรมจะยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นตามลำดับ จากการเติบโตของเทคโนโลยีและสินค้าบริการดิจิทัล

“ธุรกิจของเราทั้งหมดไม่มีวันโดนดิสรัปต์ ธุรกิจเดิมจะยังคงอยู่แต่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเป้าหมายที่จะมุ่งสู่ความยั่งยืนมากขึ้น ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ภาคการผลิตในโลกอนาคตจะมีโครงสร้างการผลิตแบบใหม่ พื้นที่จัดเก็บโกดังจะถูกออกแบบใหม่ ต้องการความทันสมัยและคำนึงถึงผลกระทบโดยรอบ ถ้านิคมฯ ของคุณยังปล่อยน้ำเสีย ปล่อยอากาศพิษ ไม่มีพลังงานสะอาด เราจะไม่สามารถดึงดูดลูกค้าต่างชาติรายใหญ่เข้ามาได้ ลูกค้าที่มาที่นิคมฯ ของเรา เขาถามเลยว่าคุณมีพลังงานสะอาดให้พวกเขาร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ มีดิจิทัลอินฟราฯ เป็นอย่างไรบ้าง การจัดการน้ำเสียและการจัดการพลังงานเป็นอย่างไร”

“จากธุรกิจโกดังสู่อาณาจักรเทคโนโลยี”

ในเซสชั่น "How We're Shaping a Sustainable Future" จรีพร เริ่มต้นฉายภาพตั้งแต่การประกาศจุดยืนทรานส์ฟอร์มองค์กรในปี 2017 สู่บริษัทเทคโนโลยีที่เป็นมากกว่าเพียงผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารภายในองค์กรเพื่อปลูกฝังให้พนักงานทั้งองคาพยพมีความเชื่อมั่นที่นำไปสู่การลงมือทำ โดยเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดของการทำทรานส์ฟอร์เมชัน คือ เรื่องของคน

การปรับวัฒนธรรมองค์กรและ Core Value ขององค์กรใหม่เพื่อเป็นรากฐานการทำงานที่จะนำองค์กรไปสู่เป้าหมายการเป็น Tech Company ต่อเนื่องด้วยขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านขั้นตอนการทำงานด้วยเทคโนโลยีหลากหลายอย่างไปจนถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในฐานะเครื่องมือยกระดับประสิทธิภาพประสิทธิผลของธุรกิจ 

“WHA ทำอินฟราฯ มาทั้งชีวิต ทำให้เชื่อว่า WHA Group จะทำได้ และจะทำได้ดีกว่าคนอื่น เพราะสิ่งที่เรามี คือ ระบบนิเวศที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ อย่างไรก็ตามการพัฒนาอินฟราฯ ที่แข็งแกร่งต้องนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามายกระดับ ทำดิจิทัลแพลตฟอร์ม ทำเครือข่ายที่รองรับการขยายการเติบโตใหม่ ๆ ให้เป็นฐานรองรับระบบนิเวศยุคใหม่ที่จะสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและจะเป็นการเติบโตที่ยั่งยืน”

สำหรับก้าวสำคัญของธุรกิจที่สำคัญในช่วงที่ผ่านมา จรีพร เปิดเผยถึงการเติบโตของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ทั้งการขยายพื้นที่สู่เวียดนามและในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 12 แห่งในประเทศไทยสามารถดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้มากกว่า 1.6 ล้านล้านบาท เกิดการสร้างงานกว่า 400,000 ตำแหน่งและกระจายโอกาสให้กับชุมชนโดยรอบ อีกทั้งยังสร้างมูลค่าจากการส่งออกที่มีสัดส่วนกว่า 80% ได้อย่างมหาศาล

นอกจากนี้การเติบโตของพลังงานสะอาด (Renewable Energy) ได้สร้างรายได้ให้กับธุรกิจพลังงานอย่างมีนัยสำคัญและมากไปกว่านั้น คือ ธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน (Digital Technology Platform) ธุรกิจน้องใหม่ของกลุ่มที่มีความสำคัญอย่างมาก สืบเนื่องจากการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันองค์กรในปี 2017 นวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนระบบปฏิบัติงานของทุกหน่วยธุรกิจของ WHA Group การอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและการออกแบบโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะสร้าง New-S Curve เพื่อรักษาสถานะความเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมต่อไป

ทั้งนี้ยังได้เปิดตัว “โมบิลลิกส์” (Mobilix) ธุรกิจใหม่ล่าสุดที่ให้บริการโซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรประกอบไปด้วย 3 บริการหลัก ได้แก่ บริการให้เช่ารถไฟฟ้าสำหรับการขนส่ง สถานีชาร์จรถไฟฟ้า และโมบิลลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชันที่ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับภาคธุรกิจ

ขณะเดียวกัน WHA Group ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามพันธกิจ WHA: WE SHAPE THE FUTURE ในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเจริญ สร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้คนและสังคมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสู่เป้าหมายสูงสุด คือ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย จรีพร กล่าวทิ้งท่าย 

"ด้วยศักยภาพของระบบนิเวศธุรกิจที่ครบวงจรเพื่อใช้ในการต่อยอดพัฒนาโซลูชันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้นักลงทุนและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งยังช่วยเสริมจุดแข็งทางการแข่งขันและผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็น The World’s Best Investment Destination สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศทั่วโลก" 

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ