SoftBank จับมือ Nvidia ทำ AI Grid เปลี่ยนสถานีฐานเป็น Mini Data Center รองรับการทำงาน AI

SoftBank บริษัทโทรคมนาคมของญี่ปุ่นเผยความร่วมมือกับ Nvidia จับมือออกแบบสร้างโครงข่ายปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยจะเปลี่ยนสถานีฐาน (Station Base) กว่า 200,000 แห่งของ SoftBank ให้เป็น "Mini Data Center" หรือศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก รองรับการประมวลผลของ AI ให้เข้าถึงง่ายและรวดเร็วขึ้น

โครงการนี้จะนับว่าเป็นการร่วมมือของ 2 ยักษ์ใหญ่ใน 2 อุตสาหกรรมที่สนับสนุน AI ทั้ง มาซาโยชิ ซอน ผู้ก่อตั้ง SoftBank Group และเจนเซน หวง ซีอีโอของ Nvidia ซึ่งทั้ง 2 ได้ขึ้นเปิดตัวโครงการนี้บนเวทีในงานที่ Nvidia จัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยเจนเซ่น หวง มองว่า สิ่งนี้จะทำให้เกิด “AI Grid” หรือโครงข่ายขนาดใหญ่ที่จะรองรับการประมวลของ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาซาโยชิ ซอน กล่าวว่า “เสาสัญญาณของเราที่เคยใช้เฉพาะในการสื่อสารและสำหรับส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ตอนนี้เราจะเชื่อมต่อพวกมันเข้าด้วยกันให้หนาแน่นขึ้น และทำให้มันเป็นเหมือนสมองขนาดใหญ่ และเป็นโครงสร้างพื้นฐานแห่งปัญญาสำหรับคนญี่ปุ่น” 

เจนเซ่น หวง กล่าวว่า โครงการนี้จะสร้างโครงข่าย AI ทั่วญี่ปุ่น และทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ เพราะ AI ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม IT เท่านั้น แต่นี่คือการเปลี่ยนแปลงของทุกอุตสาหกรรม

ความร่วมมือนี้ยังเป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของ SoftBank ต่ออนาคตของ AI ผ่านมุมมองที่ว่า AI จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน ขณะเดียวกัน ความร่วมมือนี้ก็เป็นเหมือนเครื่องยืนยันบทบาทของ Nvidia ในฐานะบริษัทใหญ่ของโลกที่ผลักดันการเติบโตของ AI 

หนึ่งในจุดสำคัญของโครงการนี้ คือ การใช้เซิร์ฟเวอร์ตัวใหม่ของ Nvidia ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งโปรเซสเซอร์สัญญาณวิทยุ และเป็นเซิร์ฟเวอร์ AI โดยการนำชิปของ Nvidia มาใช้เพื่อช่วยให้สถานีฐานทำหน้าที่เหมือน Data Center ได้

ภายในงาน มาซาโยชิ ซอน กล่าวกับ เจนเซ่น หวง ว่า “เราจะซื้อชิปของคุณเยอะมาก” ซึ่งนั่นหมายถึง อนาคตการลงทุนของ SoftBank ที่แม้ไม่ได้ระบุตัวเลขออกมา แต่คาดว่าจะมีจำนวนมหาศาล และจะคุ้มค่า เพราะสถานีฐานจะสามารถให้บริการเป็น Data Center สำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งนั่นเป็นการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นของ SoftBank

โครงการโครงข่ายนี้มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาหลักของการใช้งาน AI ที่ยังคงมีความล่าช้าระหว่าง Data Center ที่ทำหน้าที่ประมวลผลกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องพึ่ง Data Center ไม่ว่าจะเป็น ยานยนต์ไร้คนขับที่ใช้ AI ในการดำเนินการแทน ซึ่งอาจเกิดปัญหาร้ายแรงได้หากมีความล่าช้าในการสื่อสาร

SoftBank เชื่อว่าปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการทำให้ Data Center อยู่ใกล้กับจุดที่จำเป็นมากขึ้น  โดยสถานีฐานของ SoftBank พบได้ในทุก ๆ 200 ถึง 300 เมตรในโตเกียว โดยแผนในอนาคต คือ เตรียมที่จะเปิดตัวเทคโนโลยีนี้ออกสู่ตลาดในปี 2026

ที่มา: Nikkei Asia

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney