Cyrus Adaggra รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ Equinix ผู้ให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับโลก เปิดเผยว่า ประเทศไทยอยู่ในแนวหน้าของการเติบโตด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาค การเข้าสู่ตลาดกรุงเทพฯ ของ Equinix นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักของเราในการเสริมสร้างการเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เนื่องด้วยความใกล้ชิดของประเทศไทยกับประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ประกอบกับนโยบาย Cloud-First Policy เชิงรุกของรัฐบาลไทย ก่อให้เกิดความต้องการในการเชื่อมโยงทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำ
ด้วยอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยที่สูงถึง 85% และความต้องการด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แสดงถึงความพร้อมของประเทศในการพัฒนาขีดความสามารถและศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล นอกจากนี้ตลาดศูนย์ข้อมูลคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (Compound Annual Growth Rate; CAGR) 13%
กอปรกับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากโครงการ Thailand 4.0 และนโยบาย Cloud-First จึงเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศ ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่หลายรายได้เริ่มเข้าตั้งรากฐานในประเทศไทยและยังคงมุ่งมั่นขยายการดำเนินงานในประเทศอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนีแผนการลงทุนในประเทศไทย 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.68 หมื่นล้านบาทของ Equinix ในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในกลยุทธ์การขยายตัวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทยและประเทศในกลุ่ม CLMV
โดยที่ดินแห่งใหม่ในย่านบางนา กรุงเทพมหานคร ที่ซื้อมาในมูลค่าประมาณ 34 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 1.1 พันล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่กว่า 18,700 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับระบบนิเวศการเชื่อมต่อในกรุงเทพฯ ที่มีอยู่เดิม โดยพื้นที่นี้จะถูกพัฒนาเพื่อใช้ในการสร้างศูนย์ข้อมูล Equinix International Business ExchangeTM (IBX®) จำนวน 2 แห่ง
ซึ่งสามารถรองรับตู้เก็บข้อมูลได้มากกว่า 3,375 ตู้เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งยังมีความโดดเด่นเนื่องจากอยู่ใกล้เส้นทางคมนาคมหลักที่เชื่อมต่อระหว่างสนามบินและใจกลางเมือง อีกทั้งยังเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะและแหล่งพลังงานที่มั่นคง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการรองรับการเติบโตและโอกาสในการเชื่อมต่อในกรุงเทพฯ
ปัจจุบัน Equinix มีการดำเนินการศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจำนวน 58 แห่งที่ตั้งอยู่ใน 15 เมืองหลักทั่วออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย และสิงคโปร์ นอกจากนี้ ล่าสุด Equinix ยังได้ประกาศการเข้าสู่ตลาดฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในฮ่องกง มาเลเซีย และอินเดีย ด้วยการมีศูนย์ข้อมูลรวม 264 แห่งใน 72 เมืองทั่วโลก Equinix ยังคงให้การสนับสนุนธุรกิจชั้นนำกว่า 10,000 แห่งทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง
“การลงทุนครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งและหลากหลายมากขึ้น โดยรวบรวมผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่และองค์กรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจและนวัตกรรมในภูมิภาค เราพร้อมที่จะร่วมมือกับลูกค้าต่างประเทศ องค์กรท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์นี้และสร้างเศรษฐกิจของไทยที่มีความเชื่อมโยง ยืดหยุ่น และพร้อมสำหรับยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น”
ด้าน นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ประเทศไทย กล่าวว่า ในทศวรรษข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในด้านห่วงโซ่อุปทานและการย้ายไปสู่ระบบคลาวด์ ซึ่งเกิดในภาคการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัลที่กระจายตัวทั่วประเทศไทยและในภูมิภาค CLMV ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว
ประเทศไทยได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนในช่วงการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานนี้และสามารถดึงดูดการลงทุนขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมชั้นนำ โดยเฉพาะในธุรกิจบริการคลาวด์ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ไฟฟ้าภายใต้นโยบาย Cloud-First ประเทศไทยมีศักยภาพในการคว้าโอกาสการเติบโตในอนาคตในฐานะศูนย์กลางของภูมิภาคและผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
“บีโอไอยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับ Equinix ในการส่งเสริมศักยภาพด้านดิจิทัลของไทย และขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี”
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -