Alipay+ เผยเทรนด์การท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการทั่วโลก หลังธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเปิดรับการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดน “ชำระเงินด้วยมือถือ” และ “แอปฯ ชำระเงิน” เข้ามาตอบโจทย์การท่องเที่ยวให้ทั่วภูมิภาค
แอปการชำระเงินแบบครบวงจรกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย เนื่องจากมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น TrueMoney ซึ่งเป็นพันธมิตรการชำระเงินของ Alipay+ ในประเทศไทย มีปริมาณธุรกรรมผ่าน Alipay+ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของการชำระเงินแบบดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียที่เป็นผู้นำด้านการชำระเงินผ่านมือถือ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มดังกล่าวไม่ได้จำกัดอยู่เพียงภูมิภาคเอเชียเท่านั้น
โดยในภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ยุโรป ก็มีการนำโซลูชันการชำระเงินผ่านมือถือมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการเปิดตัวกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ Tinaba ในประเทศอิตาลี และโซลูชันเทคโนโลยีที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่าง Bluecode ในยุโรป
ทั้งนี้พันธมิตร E-wallet และผู้ประกอบการที่รับชำระเงินผ่านเครือข่ายของ Alipay+ เริ่มหันมาใช้ฟีเจอร์ตัวช่วยต่าง ๆ ที่ Alipay+ นำเสนอเพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน ซึ่งที่ผ่านมา Alipay+ ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้แอปจากประเทศของตัวเองในการชำระเงินซื้อสินค้าหรือบริการที่ต่างประเทศและจากการขยายเครือข่ายผู้ประกอบการร้านค้าที่รับชำระเงิน โดยมีเป้าหมายในการมอบบริการที่ไร้รอยต่อ และสร้างความสะดวกสบายในทุกขั้นตอนของการเดินทาง
โดยปัจจุบันพันธมิตรการชำระเงินของ Alipay+ ประกอบด้วยแอปชำระเงินชั้นนำจากทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น Alipay (สาธารณรัฐประชาชนจีน), AlipayHK (ฮ่องกง), Touch ‘n Go eWallet (มาเลเซีย), GCash (ฟิลิปปินส์), KakaoPay, Toss Pay และ Naver Pay (เกาหลีใต้), OCBC (สิงคโปร์), TrueMoney (ไทย) และอื่น ๆ
ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 รายงานว่า Alipay+ มีพันธมิตรด้านการชำระเงินอันได้แก่ ธนาคารชั้นนำ และพันธมิตร E-Wallet ในทวีปเอเชีย มากกว่า 30 ราย โดยสามารถเชื่อมโยงผู้ใช้งานกว่า 1.6 พันล้านคนเข้ากับผู้ประกอบการ 90 ล้านราย ใน 66 ประเทศทั่วโลก
พฤติกรรมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนหลังจากการระบาดของโควิด-19 แม้ว่านักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยรวม แต่การใช้จ่ายในด้านการช้อปปิ้งกลับลดลง และหันมามุ่งเน้นที่การซื้อสินค้าและบริการเพื่อให้เข้าถึงการท่องเที่ยวที่ท้องถิ่นมากขึ้น
เช่น การใช้จ่ายผ่านระบบ Alipay+ ในกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 80% การใช้จ่ายเพื่อชำระค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 50% ขณะเดียวกัน การใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง เช่น ค่ารถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 120% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มในการสำรวจจุดหมายปลายทางอย่างอิสระ ปราศจากข้อจำกัดในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้จากข้อมูลยังพบว่า นักท่องเที่ยวใช้แอปชำระเงินจากประเทศของตนเองในการซื้อที่พักบนแพลตฟอร์มให้บริการจองที่พักและบริการด้านการท่องเที่ยวชั้นนำผ่านระบบของ Alipay+ ซึ่งพบว่าจำนวนธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเอเชียมีการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในภูมิภาคมากขึ้น โดยมีจำนวนธุรกรรม Alipay+ สูงสุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น ไทย มาเก๊า และเกาหลีใต้
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เป็นต้น แอป Alipay ที่ใช้งานในกลุ่มผู้ใช้ชาวจีนและแอปที่เป็นพันธมิตรของ Alipay+ สามารถใช้จ่ายเพื่อชำระเงินที่ร้านค้ามากมายทั่วโลก และจำนวนร้านค้าที่รับชำระด้วย Alipay และ Alipay+ ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนการชำระเงินผ่านระบบของ Alipay+ ทั่วโลกเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน
จากข้อมูลยังพบว่า จำนวนผู้ใช้แอปชำระเงินผ่านระบบของ Alipay+ ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาของปี พ.ศ. 2567 มีเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว อีกทั้งจำนวนครั้งของการชำระเงินก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า อีกทั้งจำนวนธุรกรรมมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 142% ต่อไตรมาสในช่วงเก้าเดือนแรกของปี พ.ศ. 2567
ดักลาส ฟีกิน ประธาน แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นเสาหลักสำคัญในการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกด้วยนวัตกรรมและความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนมากยิ่งขึ้น
"Alipay+ ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินภายใต้ Ant International แพลตฟอร์มชำระเงินและบริการดิจิทัลระดับสากลที่เชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับธุรกิจ เราเห็นผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเริ่มใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทาง ขณะที่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวหลายเจ้าเริ่มเปิดรับการชำระเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนและเทคโนโลยีทางการตลาด เราเชื่อในการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรและจะทำงานอย่างใกล้ชิดในทุกอุตสาหกรรม เพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่การเดินทางรูปแบบใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น"
บทความที่เกี่ยวข้อง
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -