บริษัท LIV-24 (ลิฟ ทเวนตี้โฟร์) จำกัด ผู้ให้บริการและออกแบบเทคโนโลยีความปลอดภัย เดินหน้าบุกตลาดอุตสาหกรรม ผสานความอัจฉริยะของเทคโนโลยีแห่งยุคอย่าง AI (Artificial Intelligence) และความเชี่ยวชาญของมนุษย์เข้าด้วยกันอย่างลงตัวเพื่อทลายทุกข้อจำกัด มุ่งสร้าง Technology Solution เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ยกระดับความปลอดภัย รวมถึงสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรม เชื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับธุรกิจในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน
ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วย LIV-24
ด้วยประสบการณ์กว่าครึ่งทศวรรษกับการพัฒนาและให้บริการเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของแสนสิริและรายอื่นกว่า 130 โครงการ ลูกบ้านมากกว่า 300,000 ครัวเรือน รวมทั้งโครงการเชิงพาณิชย์ อาคารมิกซ์ยูส ตลอดจนธุรกิจบริการอย่างโรงแรมอีกหลายแห่งในประเทศไทย LIV-24 สั่งสมประสบการณ์ทั้งหมด ออกแบบโซลูชัน INDUSTRIAL TECH เพื่อภาคอุตสาหกรรม โดยผสานการทำงานระหว่าง 1. Hardware อุปกรณ์ติดตั้งที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับโครงการ 2. Software ระบบ AI อัจฉริยะในการตรวจจับและวิเคราะห์เหตุการณ์ 3. Humanware ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและประสานงานระงับเหตุได้อย่างทันท่วงที ทำให้องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิผล ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน และความแข็งแกร่งในการใช้งาน IoT (Internet of Things) ในกรอบงบประมาณที่เหมาะสม
และในปี 2567 LIV-24 ก็พร้อมที่จะเติบโตกระโดดเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ดำเนินการจัดตั้ง บริษัท ลิฟ-24 จำกัด ขึ้น เพื่อพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะให้กับโรงงานอุตสาหกรรมด้วย 6 โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ตั้งเป้าสู่การเป็น New S-Curve ของแสนสิริด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Growth)
ด้าน นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟ ทเวนตี้โฟร์ จำกัด เปิดเผยว่า LIV-24 มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นมาจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี LIV-24 เชื่อว่าเทคโนโลยีที่มีความอัจฉริยะอย่าง AI และ IoT เมื่อผสานความเชี่ยวชาญของมนุษย์แล้ว จะสามารถยกระดับประสิทธิผล เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจเอง ช่วยลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ ลดความเสี่ยง Human Error ป้องกันความเสี่ยงที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ที่ LIV-24 เรามี Command Centre ที่สังเกตการณ์จากส่วนกลางแบบ Real-Time ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน เพื่อประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ พร้อมประสานงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที ก่อนเกิดเหตุสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน และเมื่อขยายมาดูแลในภาคธุรกิจอีกสองปัจจัยที่ LIV-24 ให้ความสำคัญนั่นคือ Efficiency หรือประสิทธิภาพ และ Cost Saving หรือการลดต้นทุน ดังพันธกิจหลักขององค์กร “ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินที่มีค่า และเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ”
6 โซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
1. Fire Protection: ป้องกันอัคคีภัยอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการอัปเกรด Fire Protection System เข้ากับ LIV-24 Command Centre ตรวจจับควัน ความร้อน แก๊สรั่ว ตรวจสอบอุปกรณ์ในกรณีทำ false alarm ไม่พลาดทุกเหตุการณ์อันตราย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินอันมีค่า
2. AI CCTV Analytic: ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ตรวจจับสิ่งมีชีวิต การบุกรุก ควันไฟ สิ่งแปลกปลอม คนล้ม อุบัติเหตุในโรงงาน และพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ได้ แม้ในจุดอับที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พร้อมแจ้งเตือนแบบ Real-Time ช่วยป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ที่อาจทำให้การผลิตหยุดชะงัก
3. IoT Monitoring System: ควบคุมโรงงานอัจฉริยะด้วยระบบจัดการวิศวกรรมครบวงจร มอนิเตอร์ระบบประปา ไฟฟ้า ลิฟต์ และอื่นๆ แบบ Real-Time ตรวจจับความผิดปกติก่อนเกิดปัญหา ช่วยป้องกันความเสียหายและสร้างความปลอดภัย ระบบ IoT เชื่อมต่อกับทุกระบบในอาคาร ติดตามสถานะได้ตลอดเวลา
4. Vehicle Fleet Management: เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งด้วยการติดตามแบบ Real-Time และตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับขี่ผ่านกล้อง AI วิเคราะห์การขับ ป้องกันการหลับใน และตรวจสอบการออกนอกเส้นทาง ขับเกินความเร็ว หรือการขโมยน้ำมัน พร้อมป้องกันการขนกากอุตสาหกรรมนอกเส้นทาง ด้วยระบบ GPS Tracking ที่ทันสมัย
5. Energy Management: ใช้ Smart Meter วัดปริมาณการใช้ไฟฟ้าจากทั้งการไฟฟ้าและ Solar Cell เพื่อวิเคราะห์และวางแผนการใช้พลังงานอย่างเหมาะสม ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า ด้วยระบบ IoT ที่เก็บข้อมูลการใช้พลังงานในอาคารและวิเคราะห์การเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติในช่วง On-Peak/Off-Peak พร้อมสลับกิจกรรมที่ใช้ไฟมากไปยังเวลาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงาน
6. Waste Water Monitoring: การติดตั้งระบบจัดการคุณภาพน้ำด้วยเซ็นเซอร์วัดค่า BOD และ COD ช่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชิงรุก ทำให้มั่นใจได้ว่าน้ำที่เข้าและออกจากโรงงานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ปกป้องสิ่งแวดล้อม พร้อมแจ้งเตือนทันทีเมื่อพบความผิดปกติของคุณภาพน้ำ
ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ รับมือการเปลี่ยนผ่าน
สำหรับผลประกอบการเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา LIV-24 สร้างรายได้มากกว่า 65.3 ล้านบาท ซึ่งในปี 2567 นี้คาดการณ์รายได้ที่ 165 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายโตขึ้นอีกกว่า 82% สำหรับปีหน้าคิดเป็นรายได้ 300 ล้านบาท หวังเป็นนิวเอสเคิร์ฟให้กับกลุ่มแสนสิริ ไม่หวั่นแม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว “ในมิติของ Landscape ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว LIV-24 มองว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจเนื่องด้วยโซลูชันของเราถูกพัฒนาและออกแบบเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ลดจำนวนคน ใช้เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดอย่าง AI และ IoT เข้ามามีบทบาททั้งในมิติของรักษาความปลอดภัย มิติของการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานและปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคต ตลอดจนการตรวจสอบเครื่องจักรที่มีความเสื่อมที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ป้องกันเหตุขัดข้องที่อาจกระทบการผลิตซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียได้หากไม่ได้รับการบำรุงรักษา ฯลฯ ทั้งหมดนี้สามารถลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจได้มากกว่า 20-40% อีกทั้งยังช่วยผู้ประกอบการกระตุ้นประสิทธิผลในการทำงานออกมาได้มากยิ่งขึ้น จึงมองว่าจะเป็นตัวช่วยสำคัญของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ค่ะ” นางสาวนิรมลกล่าวเสริม
“LIV-24 มีความเชื่ออย่างหนักแน่นว่าองค์ความรู้ นวัตกรรม การออกแบบพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนประสบการณ์ที่สั่งสมมา จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมและการผลิต งานของเรามีความท้าทาย เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคน ความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องของชีวิตและทรัพย์สิน แม้กระทั่งการช่วยโลกและสิ่งแวดล้อมในการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจ ด้วยงานที่มีคุณค่าในหลายมิติ เป็นปัจจัยหนึ่งในการดึง Tech Talent ซึ่งมีศักยภาพเข้ามาอยู่ในทีม เรามีพาร์ทเนอร์ที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแสนสิริ พลัส พร็อพเพอร์ตี้และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เรามี Mindset ที่เปิดกว้าง กล้าตั้งคำถาม กล้าที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่ อีกทั้งยังพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ตลอดเวลา จึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือจุดแข็งที่พาองค์กรมาถึงทุกวันนี้ และจะยังก้าวต่อไปอีกไกลในอนาคตค่ะ” นางสาวนิรมล ดิเรกมหามงคล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลิฟ ทเวนตี้โฟร์ จำกัด กล่าวทิ้งท้าย
Conclusion
บริษัท LIV-24 (ลิฟ ทเวนตี้โฟร์) จำกัด ผู้ให้บริการและออกแบบเทคโนโลยีความปลอดภัย พร้อมเดินหน้าลุยภาคอุตสาหกรรม พร้อมใช้ Technology Solution ที่ผสาน AI และ IoT ร่วมกับความเชี่ยวชาญของมนุษย์ มุ่งยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้วยโซลูชันอัจฉริยะ 6 ด้าน ได้แก่ Fire Protection, AI CCTV Analytic, IoT Monitoring System, Vehicle Fleet Management, Energy Management, และ Waste Water Monitoring เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และความปลอดภัยแบบครบวงจร ตั้งเป้ารายได้ 300 ล้านบาทในปี 2567 และมุ่งสู่การเป็น New S-Curve ของแสนสิริ