โรงงานจีนโวย Temu บีบคู่ค้าแบกต้นทุน-ค่าปรับหลังแอ่น ลูกค้าได้ของถูกแต่คนขายขาดทุน จนต้องปิดกิจการ

ปฏิเสธไม่ได้ถึงความร้อนแรงของแอปพลิเคชัน “Temu” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่กำลังเข้ามาตีตลาดไทย แต่ประเด็นในตอนนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องของ “สินค้าราคาถูก” แต่ตอนนี้มีพ่อค้า-แม่ค้าที่เป็นซัพพลายเออร์ให้กับ Temu ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมที่หน้าบริษัทพันธมิตรของ Temu ในเมืองกวางโจว ประเทศจีน อยากให้ Temu พิจารณาเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการลงโทษร้านค้า ที่ส่งผลให้บางร้านต้องปิดตัวและล้มละลาย

ร้านค้าส่วนใหญ่บน Temu มีที่เป็นทั้งโรงงานผลิต และซัพพลายเออร์ที่ขายสินค้าอยู่บนแพลตฟอร์ม ทำให้สินค้ามีราคาถูก เพราะส่งตรงมาจากผู้ผลิต ซึ่งกว่า 100,000 ร้าน ดำเนินการอยู่ในประเทศจีน แต่ล่าสุดผู้ผลิตกลับพบกับความอยุติธรรมที่ทางแพลตฟอร์มมีการลงโทษร้านค้าที่เกิดความผิดพลาด ทั้ง สินค้าไม่ตรงปก เกิดปัญหาหลังการขาย หรือลูกค้าเข้ามาร้องทุกข์จากปัญหาของสินค้า ด้วยการเรียกเก็บค่าปรับ และระงับบัญชีร้านค้า

นอกจากนี้ Temu จะคืนเงินให้ลูกค้าเต็มจำนวน ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดกับสินค้า แต่สินค้าดังกล่าวกลับไม่ได้ส่งคืนซัพพลายเออร์ และจะมีการปรับเงินกับร้านค้า จากรายงานของ CNN พบว่า ร้านค้าจะต้องจ่ายค่าปรับที่ 1-5 เท่าของราคาสินค้า บางรายถูกระงับบัญชีร้านค้าในระบบจนไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ 

จากการเรียกเก็บค่าปรับดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายต้องแบกรับต้นทุนจำนวนมหาศาล และบางรายถึงขั้นล้มละลาย

เจ้าของร้านค้ารายหนึ่งแจ้งต่อสำนักข่าว CNN ว่า ร้านค้าของเธอมีเงินคงค้างอยู่ในบัญชีบนแพลตฟอร์มกว่า 2 ล้านหยวน หรือกว่า 276,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่เธอไม่สามารถถอนออกมาได้ และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่าจ้างให้กับพนักงาน และชำระค่าอื่นๆ ได้

ด้านโฆษกของ Temu ได้ออกมากล่าวถึงประเด็นการประท้วงของร้านค้าว่า “ร้านค้าส่วนใหญ่ที่ออกมาเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น และหลายร้านก็ดำเนินการบน Shein”

“ร้านค้าแค่ไม่พอใจที่ Temu ให้มีกฎเกณฑ์กับเรื่องของสินค้าและบริการหลังการขายที่ต้องมีประสิทธิภาพ เราดำเนินการอย่างโปร่งใสในการกำหนดกฎเกณฑ์และค่าปรับแล้ว และหลังจากนี้เราจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับร้านค้าต่อไป” โฆษกของ Temu กล่าว 

Temu ให้นิยามตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้ลูกค้า “Shop Like a Billionaire” ด้วยสินค้าที่มีราคาถูกมาก และใครๆ ก็เข้าถึงได้ Temu เปิดตัวมาเมื่อปี 2022 และปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอปฯ ไปแล้วกว่า 600 ล้านครั้ง 

และจากข้อมูลของ Goldman Sachs ชี้ว่า Temu จะสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าออนไลน์ได้กว่า 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 18,000 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน

ที่มา: WSJ, CNN

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney