Google ฟอร์มดี Q1/67 กวาดรายได้ 8 หมื่นล้าน รับแรงหนุนจากโฆษณาและคลาวด์ ประกาศจ่ายปันผลครั้งแรก

Alphabet ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2567 ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 คว้ารายได้รวม 8.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตรากำไรจากการดำเนินงาน 2.54 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.36 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.89 ดอลลาร์สหรัฐ 

รายได้หลักมาจาก Google Services (Advertising, Android, Chrome, Devices, Google Maps, Google Play, Search และ YouTube Ads) ทำเงินทั้งหมด 7.04 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 

โดยแรงหนุนหลักมาจาก Advertising ที่ยังคงขับเคลื่อนรายได้หลักอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสนี้ทำเงินไปได้ 6.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า ต่อเนื่องด้วย Search 4.61 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ YouTube ยังคืนฟอร์มเป็นไซต์วิดีโอยอดนิยม ทำรายได้ 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งสุดในรอบสองปี หลังจากเผชิญผู้ลงโฆษณาลดน้อยลงในช่วงที่ผ่านมา

ในส่วนของ Google Cloud บริการโครงสร้างพื้นฐานแพลตฟอร์มและเซอร์วิสคลาวด์ตามมาเป็นอันดับสองที่ 9.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้า ทำกำไรจากการดำเนินงานกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทกล่าวถึงการเติบโตของ Google Cloud และกลุ่มลูกค้าคลาวด์ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังได้อานิสงส์จากความต้องการใช้งานบริการ GenAI 

กล่าวคือ แตกต่างก่อนหน้านี้ที่ Google Cloud มักจะเป็นจุดอ่อนในระหว่างการรายงานผลประกอบการ ผลลัพธ์ล่าสุดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าข้อเสนอ AI ของ Google Cloud ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าองค์กรหันมาพิจารณาอีกครั้ง แต่ยังใช้จ่ายเงินจำนวนมากอีกด้วย อีกทั้งพิสูจน์ให้เห็นว่าบริษัทไม่ต้องพึ่งพารายได้จากธุรกิจโฆษณาเพื่อชดเชยผลขาดทุนจากการดำเนินงานเหมือนที่เคยเป็นมาในหลายปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เจ้าอื่น Alphabet ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อพัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Gemini สำหรับโปรดักต์และบริการที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันเช่นเดียวกัน

โดยกลยุทธ์การรวม GenAI เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การค้นหาเว็บไปจนถึงชุดซอฟต์แวร์ระดับองค์กรตั้งแต่ Gmail ไปจนถึง Google Docs ประสบความสำเร็จและไม่ตกขบวน พร้อมกับเป้าหมายล่าสุดที่ได้มีการจัดทัพ AI ใหม่ตามประกาศเมื่อวันที่ 18 เมษายน จะช่วยเสริมแกร่งให้ Google รักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้การประกาศโครงการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดและการขยายวงเงินซื้อหุ้นคืนที่สะท้อนความแข็งแกร่งของงบดุลบริษัทแล้วอาจความมั่นใจนักลงทุนกลับคืนมา หลังจากปีที่ผ่านมาหุ้นบริษัทไม่ได้ปรับตัวขึ้น ตามผลดำเนินงานที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดในสนาม AI รวมถึงการแข่งขันในธุรกิจโฆษณา และประเด็นเรื่องการผูกขาด Search Engine ที่กระทบความเชื่อมั่นในระยะยาว 

อ้างอิง CNBC , Reuters 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney