หุ้นเทคตัวท็อป กลุ่ม MAANG หน้าตาเปลี่ยนไปจากยุคแพลตฟอร์มสู่ยุค AI

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นเทคตัวท็อป กลุ่ม MAANG หน้าตาเปลี่ยนไปจากยุคแพลตฟอร์มสู่ยุค AI

Date Time: 3 มี.ค. 2567 13:44 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • MAANG หุ้นเทคทรงอิทธิพล มูลค่าบริษัทรวมกันกว่า 280 ล้านล้านบาทที่มีหน้าตาเปลี่ยนไปจากแพลตฟอร์มสู่ยุค AI ที่มี Nvidia เข้ามาแทนที่ Netflix

Latest


ในยุคแพลตฟอร์มก่อนหน้านี้ หลายคนคงเคยได้ยินการเรียกชื่อของกลุ่มหุ้นมากมาย และหนึ่งในนั้น คือ MAANG ตัวย่อของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลในตลาดหุ้น ซึ่งประกอบไปด้วย Meta, Amazon, Apple, Netflix และ Google ที่มีมูลค่าบริษัทรวมกันแล้วกว่า 7.8 ล้านล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 280 ล้านล้านบาท) โดยมาจากไอเดียของ Jim Cramer ผู้ดำเนินรายการ ‘Mad Money’ จาก CNBC 

และก่อนที่จะมาเป็นหุ้น MAANG อย่างทุกวันนี้ ต้องย้อนไปในปี 2013 ที่คำว่า ‘FANG’ เกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรก ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทเทคโนโลยี 4 เจ้า ได้แก่ Facebook, Amazon, Netflix และ Google จากนั้น Apple ก็ตามเข้ามาในปี 2017 จึงได้กลายเป็น ‘FAANG

ส่วนที่มาของคำว่า MAANG นั้นเกิดจากการที่ Facebook รีแบรนด์เปลี่ยนชื่อเป็น Meta เพื่อเน้นย้ำถึงความสนใจในโลก Metaverse ในปี 2021 และขณะนั้นก็มีผู้ใช้ Twitter บางรายเสนอให้เพิ่ม Tesla และ Microsoft ที่กำลังห้ำหั่นกับ Apple เพื่อเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย

ชาวเน็ตช่วงนั้นจึงเกิดไอเดียเป็น “MAMATA” ที่ไร้เงาของ Netflix ซึ่งมีมูลค่าตลาดน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ขณะที่ Google เปลี่ยนเป็นตัวย่อที่แทนด้วย Alphabet ดังนั้น MAMATA จึงจะประกอบไปด้วย Microsoft, Apple, Meta, Amazon, Tesla และ Alphabet 

และเมื่อกลับมาพิจารณาที่ MAANG อาจมีคนสงสัยว่าทำไมไม่มี Microsoft ที่ก็ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีมูลค่าบริษัทสูงกว่าบางบริษัทในกลุ่มนี้รวมอยู่ด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่า Microsoft มีภาพที่ดูจริงจัง เป็นองค์กรดั้งเดิมและเป็นบริษัทเทคเก่าแก่ที่โฟกัสกับโซลูชันองค์กรและกลุ่มลูกค้าธุรกิจและไม่ได้มีภาพที่ดูเท่เหมือนบริษัทในกลุ่ม MAANG นั่นเอง แต่ในยุคนี้ที่มี AI เป็นดาวเด่น Microsoft ก็ไม่ได้ตกขบวนแต่อย่างใดในทางตรงกันข้าม บริษัทกลับเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับ Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปที่ได้ประโยชน์อย่างมากในยุคนี้ในฐานะผู้นำตลาดในการป้อนแพลตฟอร์มประมวลผลสำหรับ AI และ Generative AI ให้บรรดาบิ๊กเทคและองค์กรน้อยใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Nvidia อยู่ที่ 1.83 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาอยู่ในอันดับสามบิ๊กเทคมูลค่าสูงสุดในโลกอย่างเป็นทางการ

ซึ่งก็ได้ทำให้ตัว N ของ Netflix ถูกแทนที่ด้วย Nvidia และนอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Microsoft กับ Tesla เข้ามาและได้กลายเป็น “Magnificent Seven” หุ้นสหรัฐฯ 7 ตัวที่ทรงอิทธิพลในโลกประกอบไปด้วย AppleAlphabet, Meta, Amazon, Nvidia, Microsoft และ Tesla นั่นเอง

อ้างอิง

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์