สำนักข่าย Bloomberg รายงานว่า Nokia กำลังเผชิญกับรายได้ที่ลดลง โดยการลงทุนในกลุ่มเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการในภูมิภาคสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีสัดส่วนที่ลดลง สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค ที่ทำให้ผู้ให้บริการต้องลดรายจ่ายฝ่ายทุนและปรับสินค้าคงคลัง โดยมีการมองหาทางเลือกจากผู้ให้บริการเครือข่ายรายอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลดำเนินการของบริษัท
Pekka Lundmark ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nokia กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเติบโตไม่เพียงพอที่จะชดเชยการชะลอตัวในอเมริกาเหนืออีกต่อไป โดย Nokia ได้ปรับลดการคาดการณ์สำหรับตลาด โดยคาดว่าตลาดเครือข่ายมือถือโดยรวมจะตกต่ำ 9% ในปี 2566 ก่อนหน้านี้คาดว่าจะลดลง 2%
“ไตรมาสสามแสดงให้เห็นถึง การปรับตัวอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าผลกระทบจากสภาพแวดล้อมที่อ่อนแอต่อยอดขายสุทธิของเราก็ตาม ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เราได้ลงทุนอย่างมากเพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทั่วทั้งธุรกิจ ทำให้เรามีรากฐานที่มั่นคงในการรับมือกับความอ่อนแอของตลาดในช่วงเวลานี้”
ผลดำเนินการไตรมาสนี้ กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 424 ล้านยูโร (1.62 หมื่นล้านบาท) กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.05 ยูโรต่อหุ้น (1.92 บาทต่อหุ้น) ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 5 พันล้านยูโร (1.92 แสนล้านบาท) โดยรายได้หลักๆ มาจาก กลุ่มเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อยู่ที่ 2.1 พันล้านยูโร (8.06 หมื่นล้านบาท) ลดลง 24% และโครงสร้างเครือข่ายพื้นฐานซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักอยู่ที่ 1.8 พันล้านยูโร (6.91 หมื่นล้านบาท) ซึ่งลดลง 19% เช่นเดียวกัน
สำหรับ Nokia ที่เราคุ้นเคยกับการเป็นบริษัทมือถือสัญชาติฟินแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี 2408 โดย "Fredrik Idestam" นักธุรกิจและ วิศวกรเหมืองแร่ชาวฟินแลนด์ เริ่มแรกทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงงานผลิตกระดาษ และได้เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ GSM เครื่องแรกของโลกจนกลายมาเป็นผู้นำตลาดโทรศัพท์มือถือของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 51%
อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน Nokia ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทมือถืออีกต่อไป หลังตัดสินใจขายธุรกิจโทรศัพท์ให้ Microsoft และทำการยกเครื่องบริษัทใหม่ ปรับทิศทางสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมและการสื่อสาร ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา โดยมีรายได้หลัก รายได้หลักจาก กลุ่มธุรกิจโครงสร้างเครือข่ายพื้นฐาน (Network Infrastructure) เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Networks) บริการคลาวด์ (Cloud and Network Services) และนวัตกรรมอื่นๆ ภายใต้ชื่อ Nokia Technologies
อ้างอิง Bloomberg