บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอย่าง Apple ประกาศงบการเงินไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2023 สิ้นสุดวันที่ 1 กรกฎาคม โดยมีรายได้อยู่ที่ 8.18 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.83 ล้านล้านบาท) ลดลง 1% จากปีก่อนหน้า และมีกำไรเพิ่มขึ้น 2% เป็น 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 6.87 แสนล้านบาท) สวนทางตลาดสมาร์ทโฟนที่อยู่ในช่วงขาลง
ทั้งนี้ราคาหุ้นของ Apple ตกลงประมาณ 2% หลังบริษัทคาดการณ์ยอดขายที่ลดลงติดต่อกัน
โดยในไตรมาสนี้ยอดขาย iPad ตกลง 20% เหลือ 5.79 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.01 แสนล้านบาท) ขณะที่ยอดขาย Mac ลดลง 7% อยู่ที่ 6.84 พันล้านบาท (หรือประมาณ 2.37 แสนล้านบาท)
สำหรับยอดขาย iPhone ลดลง 2% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 3.96 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 1.37 ล้านล้านบาท) แต่ยอดขายในจีนกลับเพิ่มขึ้น 7% สวนทางกับยอดขายทั้งหมดของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่ตกลง 4% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2014 ตามข้อมูลของ Counterpoint Research บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยี
ขณะที่ยอดขายอุปกรณ์ตกลงแต่รายได้จากบริการต่างๆ กลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางด้านซีอีโออย่าง ทิม คุก ก็ได้ออกมากล่าวถึงรายได้จากบริการที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งมาจากยอดการสมัครสมาชิก (Subscription) มากกว่า 1 พันล้านครั้ง โดยยอด Subscription ของ Apple Music และยอดขายใน App Store รวมถึง Apple Pay สูงขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 7.37 แสนล้านบาท)
นอกจากนี้ธุรกิจอุปกรณ์สำหรับสวมใส่อย่าง Apple Watch และ AirPods ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 2% เป็น 8.28 พันล้านดอลลาร์ (หรือประมาณ 2.87 แสนล้านบาท)
อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ปริมาณการขายชุดแว่น VR Headset ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้อย่าง Vision Pro ว่าจะขายได้ไม่ถึงครึ่งล้าน เทียบกับสินค้าหลักอย่าง iPhone ซึ่งมีปริมาณการขายในแต่ละปีอยู่ที่ 200 ล้านเครื่อง
อ้างอิง