Apple และ Google กำลังเจอศึกใหญ่รอบด้าน ที่เข้ามาดิสรัปอำนาจในตลาดเทคโนโลยี โดย Apple เผชิญความท้าทายจากหน่วยงานกำกับดูแล กรณีผูกขาดตลาด App store ขณะที่ Google กำลังถูกเบียดด้วย ChatGPT ที่ผู้ใช้งานต่างมองว่าตอบโจทย์มากกว่า
Apple เผชิญความท้าทาย จากการทลายอำนาจผูกขาดตลาด App
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านทั้ง Apple และ Google ถูกจับตามองจาก หน่วยงานกำกับดูแล บริษัทคู่แข่ง และเหล่านักพัฒนาแอปพลิเคชัน ซึ่งได้มีการร้องเรียนถึงกรณีผูกขาดการแข่งขันและการค้า
โดยในปี 2021 สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้เริ่มทำการสอบสวน Apple และ Google กรณีผูกขาดการแข่งขันและเอาเปรียบด้านการค้าบนแพลตฟอร์ม App store และ Play store ตามคำร้องเรียนของบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Spotify, Tinder และ Tile Inc.
โดยเฉพาะ Apple ซึ่งในปีเดียวกันนั้น ได้ถูกฟ้องร้องจากบริษัท Epic Game เจ้าของเกมชื่อดังอย่าง Fortnite ถึงประเด็นการผูกขาดการค้าบน App store ด้วยการบังคับใช้ให้สามารถชำระเงินผ่านช่องทางของ Apple เท่านั้น รวมถึงยังมีการหักค่า commission จากรายได้ของแอปพลิเคชันถึง 30% ด้วยกัน
ซึ่งการบังคับใช้ช่องทางชำระเงินนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ Apple ได้รับรายได้จากค่า commission ของแอปพลิเคชันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายได้จากธุรกรรมการซื้อขายทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเกมด้วย
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เกมอย่าง Fortnite ถูกลบออกจาก App store เพราะไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดใช้ช่องทางชำระเงินของตนเอง
และในขณะเดียวกัน Google ก็ยังถูก Epic Game ฟ้องร้องด้วยข้อหาเดียวกันอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม Apple ได้มีการตอบโต้กรณีดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การจัดเก็บค่า commission จากแอปพลิเคชันต่างๆ 30% นั้น ก็เพื่อเป็นการนำรายได้ไปพัฒนาระบบดูแลแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ให้สามารถบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ส่วนการบังคับใช้ระบบช่องทางชำระเงินของบริษัทจะทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่อง ปราศจากการหลอกลวง ดังนั้นในข้อกล่าวหานี้ ศาลแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินให้ Apple ชนะในคดีการผูกขาดการค้า
แต่หลังจากนั้นก็มีรายงานว่า ปัจจุบัน Apple กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างการทำงานของ App store เพื่อรองรับผู้ให้บริการเจ้าอื่นตามกฎหมายใหม่ของยุโรปที่ห้ามกีดกันทางการค้า
Google เจอมรสุมจาก ChatGPT ที่กำลังแย่งผู้ใช้งาน หลังตอบโจทย์มากกว่า
ก่อนหน้านี้มีข่าวใหญ่สะเทือนวงการเทคโนโลยี ที่ Google ดูเหมือนยอมรับเป็นนัยว่า ChatGPT อาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญ และจะเป็นปัญหาต่อธุรกิจภายหลัง จากการที่ ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Google ได้ออกรหัสแดง สั่งทีมเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เอไอ หลังเผชิญกับความร้อนแรงของ ChatGPT แชตบอตอัจฉริยะของบริษัท OpenAI ที่พัฒนาโมเดลการโต้ตอบด้วยเทคนิค Reinforce Learning ทำให้สามารถโต้ตอบ รวมถึงโต้แย้งข้อเท็จจริงด้วยข้อมูลกับมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ และสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย โดยเฉพาะการช่วยเขียนคอนเทนต์และแก้โค้ดโปรแกรมมิ่ง
โดยหลังจากที่ได้มีการปล่อยให้ทดลองใช้ในสัปดาห์แรกก็มียอดผู้ใช้งานทะลุ 1 ล้านคน ศักยภาพเหล่านี้เองส่งผลให้เกิดการเปรียบเทียบกับระบบเสิร์ชเอ็นจิ้นของ Google ที่ถูกวิจารณ์เรื่องการให้ความสำคัญกับการขายโฆษณาเว็บไซต์มากเกินไป ทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสเจอข้อมูลที่ต้องการ และมีความถูกต้องน้อยลง
ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานและความอัจฉริยะของ ChatGPT ทำให้สามารถดึงดูดให้นักลงทุนหลายราย ที่ต่างตบเท้าเข้ามาขอร่วมสนับสนุน โดยเฉพาะผู้สนับสนุนหลักอย่าง Microsoft ที่ก่อนหน้านี้เคยลงทุนไปแล้วกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดประกาศเตรียมลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากข้อตกลงบรรลุจะทำให้ Microsoft กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และได้ประโยชน์จากการนำ ChatGPT มาผสานเข้ากับระบบเสิร์ชเอ็นจิ้น ของตัวเองอย่าง Bing ให้สามารถแข่งขันกับ Google ได้
ที่มา business insider , nytime