วีซ่าเผยอินไซต์ กว่า 80% ของคนไทยใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด เฉลี่ยนานถึง 9 วัน โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

วีซ่าเผยอินไซต์ กว่า 80% ของคนไทยใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด เฉลี่ยนานถึง 9 วัน โดยเฉพาะ Gen Y และ Gen Z

Date Time: 14 พ.ค. 2567 14:57 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • วีซ่า เผยอินไซต์ กว่า 80% ของคนไทยประสบความสำเร็จใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดถึง 9 วัน นำเทรนด์โดย Gen Y และ Gen Z มีผู้บริโภค 81% พยายามใช้จ่ายไม่พึ่งเงินสด สะท้อนโอกาสดีของผู้ประกอบการปรับตัวรองรับความต้องการลูกค้า
  • ขณะที่บริการเวอร์ชวลแบงก์ได้รับความสนใจจากคนไทยเกินครึ่ง นำเทรนด์โดย Gen Y และ Gen X โดยปัจจัยสำคัญคือความปลอดภัย ความเร็ว และการใช้งานง่าย

วีซ่า เผยข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจจากการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของวีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study) ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยมากถึง 80% ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดโดยเฉลี่ยนานถึง 9 วัน

โดยการศึกษาของวีซ่ายังชี้ให้เห็นถึงเทรนด์การใช้จ่ายแบบไร้เงินสดที่ยังคงเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย โดยพบว่า มากถึง 8 ใน 10 ของผู้บริโภค (81%) พยายามจะใช้จ่ายโดยไม่พึ่งพาเงินสด โดยผู้นำเทรนด์เป็นผู้บริโภคจากกลุ่มเจน Z (85%) [อายุระหว่าง 18-23 ปี] และเจน Y (85%) [อายุระหว่าง 24-39 ปี]  นอกจากนี้และเมื่อพูดถึงความสำเร็จในการใช้ชีวิตแบบไร้เงินสด ก็พบว่าเกือบสี่ในห้าของชาวไทยสามารถทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เทรนด์การใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดในประเทศไทยถือว่ามาแรงมาก และแนวโน้มเชิงบวกนี้ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก และการเพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซ ที่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขายเองต่างให้ความสำคัญกับความสะดวก ปลอดภัย และการรับชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสอันดีของผู้ประกอบการที่จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”

นอกจากนี้การศึกษายังแสดงให้เห็นด้วยว่าผู้บริโภคชาวไทยมีความมั่นใจมากขึ้นในการที่จะใช้ชีวิตนอกบ้านโดยถือเงินสดในมือลดลง โดยเกือบครึ่ง (47%) เลือกที่จะถือเงินสดในกระเป๋าสตางค์น้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามเทรนด์นี้เกิดขึ้นจากช่องทางการรับชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลควบคู่ไปกับการใช้จ่ายแบบไร้เงินสดของผู้บริโภค (อาทิ คิวอาร์โค้ด บัตรชำระเงิน อีวอลเล็ต ฯลฯ) นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสอบถามยังระบุว่า ได้สังเกตเห็นช่องทางการรับชำระเงินแบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นในหลายหมวดหมู่ โดยเฉพาะ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม (79%) การค้าปลีก (67%) การจับจ่ายที่ร้านสะดวกซื้อ (67%) ซุปเปอร์มาร์เก็ต (64%) และบริการขนส่ง อาทิ แท็กซี่และบริการใช้รถเดินทางร่วมกัน เป็นต้น (60%) 

ขณะที่ภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทยมีแผนที่จะนำเวอร์ชวลแบงก์ออกมาตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค การศึกษายังได้วิเคราะห์ถึงความความสนใจและบริการที่ผู้บริโภคต้องการ โดยจากข้อมูลพบว่า เกินกว่าครึ่งของผู้บริโภคชาวไทย (54%) สนใจบริการของเวอร์ชวลแบงก์ โดยกลุ่มที่ให้ความสนใจมากที่สุดคือกลุ่มเจน Y (68%) และเจน X (53%) และบริการของเวอร์ชวลแบงก์ที่ผู้ตอบแบบสอบถามกระตือรือร้นที่จะใช้มากที่สุด คือ การบริการตนเองเต็มรูปแบบ (81%) บริการแบบไลฟ์ผ่านแอปพลิเคชันดิจิทัล (80%) และการใช้ข้อมูลทางการเงินทางเลือกสำหรับประเมินสินเชื่อ (78%)

ส่วนปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคชาวไทยพิจารณาในการใช้งานเวอร์ชวลแบงก์นั้น ความปลอดภัยยังเป็นฟีเจอร์ที่ได้รับการจัดลำดับให้มีความสำคัญสูงสุด โดย 56% ของผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่า ต้องการชำระเงินและทำธุรกรรมที่ปลอดภัย ตามด้วยความเร็วในการทำธุรกรรม (55%) และการใช้งานสะดวก ง่ายดาย ไม่ซับซ้อนและสำเร็จได้ภายในไม่กี่คลิก (46%).

 ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ