ญี่ปุ่นหารืออาเซียน เปิดตัวระบบ QR Code ชำระเงินร่วมกัน นักท่องเที่ยวสแกนจ่ายง่ายๆ ใช้ได้เม.ย. 68

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ญี่ปุ่นหารืออาเซียน เปิดตัวระบบ QR Code ชำระเงินร่วมกัน นักท่องเที่ยวสแกนจ่ายง่ายๆ ใช้ได้เม.ย. 68

Date Time: 18 มี.ค. 2567 15:55 น.

Video

เปิดทริกวางแผนการเงิน เพื่อชีวิตที่มีประสิทธิภาพ

Summary

  • รัฐบาลญี่ปุ่นหารือประเทศอาเซียนเปิดใช้งาน QR Code ชำระเงินร่วมกัน คาดใช้งานได้ภายในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายนของปีเดียวกัน

Latest


รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มหารือกับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการเปิดใช้งาน "QR Code" ชำระเงินร่วมกัน ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกสามารถชำระเงินในต่างประเทศได้ด้วยช่องทางชำระเงินของตัวเอง

และความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ระบบ QR Code ของแต่ละประเทศสามารถใช้งานร่วมกันได้โดยคาดว่าจะเริ่มต้นภายในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งจะเริ่มในเดือนเมษายนของปีเดียวกัน

โดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หรือ METI ได้เข้าหารือกับรัฐบาลของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงธนาคารกลางของประเทศต่างๆ อย่างเช่นอินโดนีเซียและกัมพูชา

และทาง Payments Japan Association ซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบ QR Code ชำระเงินในญี่ปุ่นหรือที่เรียกว่า ‘JPQR’ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาระบบใหม่อย่างเร็วที่สุดคือ ภายในปีนี้โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการในต่างประเทศ

ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการสานต่อความตกลงเมื่อปี 2022 ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศอันประกอบไปด้วย ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ได้ทำข้อตกลงร่วมกันเพื่อสร้างระบบ QR Code ชำระเงินร่วมกันและไทยนับเป็นประเทศแรกที่นำระบบดังกล่าวไปใช้ร่วมกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ทั้งนี้สำนักข่าว Nikkei Asia ยังระบุว่าเป้าหมายของญี่ปุ่นที่บูรณาการเข้ากับระบบ QR ชำระเงินเจ้าอื่นนั้นเป็นไปเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเด็นความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการใช้ข้อมูล ด้วยความคาดหวังเพื่อเพิ่มอิทธิพลทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาดูท่าทีของจีนที่กำลังเพิ่มการใช้งานแพลตฟอร์มชำระเงินดิจิทัลผ่านมือถือของผู้พัฒนาในประเทศในโซนเอเชียและแอฟริกา

อ้างอิง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์