นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยถึงผลงานที่ผ่านมาของ KBTG ในการดูแลเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับธนาคารกสิกรไทยกับสื่อมวลชน ว่า ขณะนี้ KBTG ได้ขึ้นแท่นสุดยอดองค์กรเทคโนโลยีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งหมดเร็วกว่าที่ตั้งไว้ถึง 2 ปี ที่จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ปี 2568 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการ Transformation องค์กรแบบยกเครื่องมาตั้งแต่ปี 2562
โดยสะท้อนได้จากการที่ระบบไอทีของธนาคารกสิกรไทยมีเสถียรภาพมากที่สุดเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน โดยปัจจุบันแอปฯ K PLUS มียอดผู้ใช้งานกว่า 21.7 ล้านราย รองรับธุรกรรมทางการเงินถึง 23.9 ล้านล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินนี้มากขนาดที่คิดเป็น 1.3 เท่าของ GDP ประเทศไทยเลยก็ว่าได้ แม้จะเป็นจำนวนที่มหาศาลแต่เปอร์เซ็นต์ความพร้อมในการให้บริการของระบบ (Service Availability) ก็สูงถึง 99.99% เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ KBTG ได้มีการจัดทำศูนย์จัดเก็บข้อมูล (Data Center) ที่ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ระบบ Hybrid Cloud ที่ผสมผสานการทำงานระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud เพื่อประสิทธิภาพและเสถียรภาพขั้นสูงสุด รวมถึงลดอัตราการเกิด Incident ระดับรุนแรงได้มากถึง 60% เวลาที่ใช้ในการแก้ไขลดลง 33% และ Downtime ของระบบลดลง 66%
และในขณะเดียวกันก็ได้มีการปรับวิถีการทำงานแบบ End-to-end ด้วย Agile และ Automation ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพงานเพิ่มขึ้น 2.25 เท่า โดยในปี 2566 สามารถส่งมอบโปรเจกต์ไอทีให้กับธนาคารได้ถึง 190 โปรเจกต์
นายเรืองโรจน์ กล่าวว่า สำหรับ 3 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ของ KBTG ตั้งเป้าที่จะขยายศักยภาพขององค์กรด้วย AI โดยคงมนุษย์เป็นจุดศูนย์กลาง เรียกว่า Human-first x AI-first Transformation เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีแผนการ ดังนี้
ด้านนางวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเสริมว่า ในปี 2567 เราจะลงทุนทางด้านยุทธศาสตร์ไอทีด้วยงบประมาณ 8,000-9,000 ล้านบาท เน้นที่การยกเครื่องระบบเครดิตจากต้นน้ำยันปลายน้ำ (Rearchitect E2E Credit), แพลตฟอร์มบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Platform), AI, Credit Card และ Infrastructure as a Service
นอกจากเรื่องเสถียรภาพของระบบแล้ว KBTG ยังไม่หยุดในเรื่องของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วย โดยที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากกว่า แอปฯ K PLUS ที่เป็นตัวหลัก ออกสู่ตลาดให้ลูกค้าของธนาคารได้ใช้งานด้วย ไม่ว่าจะเป็น MAKE by KBank ขุนทอง
รวมถึงธุรกิจใหม่จาก KX อย่าง Kubix และ Coral และล่าสุดได้มีการเปิดตัว “เหมียวจด” แอปฯ บันทึกรายจ่ายอัตโนมัติจากสลิปโอนเงิน มีผู้ใช้งานแล้วกว่า 39,000 ราย หลังจากเปิดตัวได้เพียง 1 เดือนเท่านั้น และมั่นใจว่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะมีผู้ใช้งานเกินล้านแน่นอน นอกจากนี้แล้วบริษัทมีการขับเคลื่อนกลยุทธ์ M.A.D. (Machine Learning, AI, Data) อย่างเต็มตัว ผ่านการนำ AI มาใช้งานในองค์กร สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานวิจัยระดับโลก และการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพและกองทุน Deep Tech ผ่าน KXVC อีกด้วย
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney