นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) เป็นองค์กรหลักที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ ลดปัญหาการทำงานแบบแยกส่วนกันของหน่วยงานภาครัฐ สามารถนำเอาข้อมูลต่างๆ มาใช้ร่วมกันจนเกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศ และจะช่วยยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านดิจิทัลและนวัตกรรมของไทยในเวทีโลกให้ดียิ่งขึ้นได้
โดยหนึ่งในนโยบายหลักของกระทรวงดีอี คือ โครงการพัฒนา Thai Large Language Model (ThaiLLM) ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์สำหรับภาษาไทย โดยสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ BDI เปิดเผยว่า บทบาทที่สำคัญของ BDI คือ การส่งเสริมและประสานให้เกิดการใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจและบริการ ผ่านการเป็นผู้ให้บริการเชื่อมโยงและวิเคราะห์ข้อมูลในสาขาต่างๆ ด้วยวิทยาศาสตร์ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ พร้อมทั้งการพัฒนากำลังคนด้าน Big Data
“จุดเด่นที่สำคัญของ BDI คือ การรวมตัวของคนรุ่นใหม่ด้านข้อมูลกว่า 100 คน ที่พร้อมเรียนรู้ ยืดหยุ่น คล่องตัว และมีเป้าหมายชัดเจน ที่จะพัฒนาความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ ผ่านการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Nation) ซึ่งจะส่งผลให้การปฏิรูปประเทศเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยอาศัยข้อมูลเพื่อนำทางการเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม”
1. Project BIG: Big Data Integration and Governance รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นจากหน่วยงานต่างๆ จัดเก็บ รวมทั้งให้บริการการวิเคราะห์ข้อมูลตามโจทย์และความเหมาะสม เพื่อให้เกิดการนำไปใช้อย่างเป็นระบบ ประกอบด้วย
2. Project Bridge พัฒนาผู้ประกอบการโดยสร้างทั้งอุปสงค์และอุปทานของศาสตร์ด้านข้อมูล ประกอบด้วย
3. Project Learn
ทั้งนี้ BDI ประเมินว่าภายในปี 2567 จากการขับเคลื่อนภารกิจหลัก จะสร้างผลกระทบต่อมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจกว่า 3,000 ล้านบาท ตลอดจนสร้างโอกาสการจ้างงานจากการพัฒนากำลังคนด้าน Big Data มีมูลค่ามากกว่า 200 ล้านบาท พร้อมทั้งสนับสนุน และพัฒนาให้รัฐทำงานแบบบูรณาการร่วมกันผ่านการเชื่อมโยงข้อมูล และสร้างให้เกิดความร่วมมือกับภาคเอกชน
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney