จากผลการสำรวจ พบว่า AI ถูกใช้อย่างแพร่หลายในที่ทำงาน โดยพนักงานไทยมีความเข้าใจและมีความสามารถในการใช้ GenAI ทำงานในแต่ละวันให้เสร็จสิ้น ซึ่งพนักงานถึง 99% ที่ได้ใช้งานและกำลังใช้ GenAI อยู่แล้ว กล่าวว่า GenAI ช่วยให้พวกเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มผลิตผลในการทำงาน (productivity) และยังมีส่วนช่วยให้การงานก้าวหน้าอีกด้วย
นอกจากนี้ พนักงานไทยมากกว่า 60% เชื่อว่า หากมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในเรื่อง GenAI ในการทำงานจะส่งผลให้มีความก้าวหน้าหรือได้รับการเลื่อนตำแหน่งในองค์กร และหากมีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในเรื่อง GenAI ในการทำงาน จะส่งผลให้พวกเขาเป็นที่ต้องการในบริษัทต่างๆ และยังได้รับค่าตอบแทนมากกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญในเรื่อง GenAI
อย่างไรก็ตาม พนักงานบางส่วนยังมีความกังวลว่าพวกเขาจะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการใช้ และอาจทำให้พวกเขาตามไม่ทันเพื่อนร่วมงาน และยังเจอข้อจำกัดในการนำ GenAI มาใช้งานในที่ทำงาน เช่น ไม่ได้รับการฝึกอบรม ขาดการสนับสนุนจากนายจ้าง และกลัวว่าการใช้ GenAI จะนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านข้อมูลของทั้งข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลบริษัท
โดยกว่า 77% ของพนักงานไทย กล่าวว่า บริษัทของตนไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการนำ GenAI มาใช้ในการทำงาน และ 64% กล่าวว่ายังไม่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้ GenAI อย่างมีจริยธรรมและปลอดภัยจากนายจ้างของพวกเขา
ทั้งนี้ เซลส์ฟอร์ซ ชี้ให้เห็นว่า องค์กรสามารถดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถเอาไว้ได้ ด้วยการฝึกอบรมการใช้งาน generative AI โดยพนักงานไทยยอมรับว่า บริษัทที่มีนโยบายเชิงรุกและมีความก้าวหน้าในด้าน generative AI เป็นองค์กรที่น่าร่วมงานมากกว่าองค์กรที่ไม่มีความพร้อมในเรื่องนี้ อีกทั้งพนักงานไทยลงความเห็นว่าพวกเขาพร้อมที่จะลาออกจากที่ทำงานปัจจุบัน หากนายจ้างไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้