การ์ทเนอร์ เผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีพลิกอนาคตองค์กร กับโอกาสสู่โมเดลธุรกิจใหม่

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

การ์ทเนอร์ เผย 5 เทรนด์เทคโนโลยีพลิกอนาคตองค์กร กับโอกาสสู่โมเดลธุรกิจใหม่

Date Time: 20 ต.ค. 2566 18:42 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • การ์ทเนอร์ (Gartner) เผย 5 เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตดิจิทัลของภาคองค์กร กับความสามารถในการทำให้เกิดโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่

เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญมากขึ้นทุกวัน ด้วยความสามารถที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่หลายองค์กรจะต้องจับตามองเพื่อปรับใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์เพื่อก้าวสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้จากความสามารถของเทคโนโลยี

การ์ทเนอร์ (Gartner) เผย 5 เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตดิจิทัลของภาคองค์กร ได้แก่ มนุษย์ดิจิทัล (Digital Human), การสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite Communication), อุปกรณ์ IoT ขนาดเล็ก (Tiny Ambient IoT), การประมวลผลที่ปลอดภัย (Secure Computation) และหุ่นยนต์อัตโนมัติ (Autonomic Robots)

นิค โจนส์ รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ ระบุ เทคโนโลยีทั้งห้านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนโฉมขององค์กรธุรกิจและควรได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีขอบเขตที่กว้างมากและมีความสามารถในการทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ พร้อมเสริมว่า “Disruptive” ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน จึงควรพิจารณาจากรูปแบบองค์กรและโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดจากเทคโนโลยีแต่ละตัว

เริ่มต้นจากการสื่อสารผ่านดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ Low Earth Orbit (LEO) ที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นและด้วยความเร็วในด้านการสื่อสารก็ได้ทำให้ดาวเทียมวงโคจรต่ำเป็นเทคโนโลยีสำคัญขององค์กรในการปฏิวัติการสื่อสารกับทั้งผู้คนและสิ่งของ

จากข้อมูลของการ์ทเนอร์ดาวเทียมวงโคจรต่ำจะให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ครอบคลุมทั่วโลกและมีประสิทธิภาพรับ-ส่งสัญญาณรวดเร็ว เพียงพอต่อการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งการเชื่อมต่อดาวเทียมโดยตรงสำหรับอุปกรณ์ IoT ขนาดเล็กให้ครอบคลุมทั่วโลกนั้นมีราคาไม่แพง และไม่ต้องผ่านผู้ให้บริการโทรคมนาคมหรือการโรมมิ่งที่ยุ่งยาก 

ซึ่งโจนส์ กล่าวว่า “อุตสาหกรรมนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น และคาดว่าจะมีวิวัฒนาการอีกมาก ดังนั้นควรระมัดระวังในการนำดาวเทียมวงโคจรต่ำมาใช้ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ในตลาดที่ซับซ้อน” 

ต่อมาคือเทคโนโลยีอุปกรณ์ IoT ขนาดเล็กที่ช่วยให้สามารถติดตาม และตรวจจับทุกสิ่งได้โดยไม่ต้องใช้ความซับซ้อนหรือต้นทุนของอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งจะนำไปสู่โมเดลธุรกิจใหม่โดยอาศัยการรู้ตำแหน่งหรือพฤติกรรมของวัตถุ และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง และขยายโอกาสให้กับธุรกิจที่หลากหลาย ซึ่งการ์ทเนอร์แนะนำให้ประเมินปัญหาทางสังคมและกฎระเบียบที่อาจจะเกิดขึ้นก่อนนำไปใช้

ขณะที่เทคโนโลยีการประมวลผลที่ปลอดภัยก็เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเมื่อสิ่งต่างๆ เชื่อมโยงกันและมีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพิ่มมากขึ้น แต่การนำไปใช้งานยังคงเป็นความท้าทายด้วยเหตุผลทางด้านต้นทุน ทักษะ ประสิทธิภาพ และความพร้อมใช้งาน

และอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญก็คือ มนุษย์ดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการเลียนแบบมนุษย์ ทั้งทางกายภาพอย่างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ไปจนถึงการเลียนแบบมนุษย์เสมือนจริง สู่การควบคุมด้วย AI โดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเหมือนมนุษย์ทุกด้านอย่างเช่น Digital Twin หรือ Chatbot 

สุดท้าย ได้แก่ โดรนและหุ่นยนต์อัตโนมัติแบบปรับเปลี่ยนได้ (Adaptive Autonomic Drones and Robots) โดยระบบเรียนรู้และระบบปรับตัวอัตโนมัติจะมีความสำคัญ หากเทคโนโลยีเช่นหุ่นยนต์ได้รับการสเกลเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์