นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RISE เปิดเผยว่า พันธกิจหลักในการขับเคลื่อนนวัตกรรมองค์กรและผลักดัน GDP ประเทศไทยอย่างน้อย 1% คือ ภารกิจหลักของ RISE ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเราได้มีส่วนร่วมการเติบโตในมูลค่ากว่า 2,500 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 9.18 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 0.5% ของ GDP ของประเทศ
RISE มีบทบาทหลักในการให้คำปรึกษาองค์กรธุรกิจไทย เพื่อช่วยองค์กรค้นหาโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ New S-curve ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นโปรดักต์ใหม่ๆ การทรานส์ฟอร์มวัฒนธรรมขององค์กร รวมถึงผู้นำองค์กร (People & Leader Transformation) การทำงานร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพ ตลอดจนการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ๆ ขึ้น เช่น แนวทางจัดตั้งหน่วยงานนวัตกรรมหรือปั้นสตาร์ทอัพในองค์กรของตนเอง
โดยโครงการที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา อาทิ ‘Krungsri RISE’ ที่ร่วมมือกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา สร้างโครงการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพด้านฟินเทค ซึ่งในปัจจุบันได้ขยายต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มีส่วนรวมในการสนับสนุนโครงการ ‘SPACE-F’ ซึ่งเป็นโปรแกรม Incubator-Accelerator ที่ต้องการบ่มเพาะสตาร์ทอัพฟู้ดเทคและเร่งการเติบโตทางธุรกิจเทคโนโลยีอาหารระดับโลก เป็นต้น
นอกจากนี้ นายแพทย์ศุภชัย เสนอมุมมองว่า ปัจจุบันหน่วยงานรัฐยังไม่ Digitalize มากเท่าที่ควร ทำให้การทำงานร่วมกันยังมีข้อติดขัดอยู่ โดยการยกระดับการเติบโตของประเทศไทยให้เทียบเท่าเพื่อนบ้านในขณะนี้ จำเป็นมากที่รัฐบาลไทยจะต้องลดอุปสรรคและสร้างการสนับสนุนผู้ประกอบการในการทำธุรกิจดิจิทัลให้ง่ายขึ้น เช่น นโยบายสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ สร้างช่องทางการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลที่มีผลประโยชน์ต่อธุรกิจนำมาขยายผลต่อได้
สำหรับการจัดงานสัมนาด้านนวัตกรรมองค์กร “CIS2023” Corporate Innovation Summit ในปีนี้ ตั้งเป้าสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กรธุรกิจไทย ผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบการ ตลอดจนผู้ที่มีความสนใจในการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมองค์กรที่เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
โดยมีจุดเริ่มต้นจากแนวคิดที่มองว่า องค์กรจะเปลี่ยนแปลงได้จริง ปัจจัยสำคัญ คือ ผู้นำ ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในสถานะที่ต้องตัดสินใจ (Decision Maker) เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ เป้าหมายการจัดงานในครั้งนี้มุ่งหวังให้ ‘ผู้นำ’ องค์กรซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญนี้ไม่ได้เพียงเปลี่ยนแนวคิดแต่เกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมที่เกิดจากการได้เรียนรู้และลงมือทำจริง จึงเป็นที่มาของการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้
โดยปีนี้ “CIS2023” จะจัดขึ้นในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน ที่ True Digital Park ในธีม “Accelerating growth while saving the world” เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและประเทศไทย รวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างยั่งยืน ภายในงานประกอบไปด้วยเวทีพูดคุยมากกว่า 40 เวทีในประเด็นหลักๆ อย่าง Corporate Innovation, Sustainability, Deep Tech, People Transformation และ Future of Investment เวิร์กช็อปที่เปิดให้ลงมือทำจริงร่วมกับผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 60 หัวข้อ Speakers ระดับโลกหลากหลายวงการกว่า 100 ท่าน พร้อมด้วยโชว์เคสสตาร์ทอัพกว่า 60 บริษัททั้งในและต่างประเทศ