SCG เปิดตัว ‘มายด์’ (mind) โซลูชันบ้านอัจฉริยะ เชื่อมได้ทุกอุปกรณ์ พร้อมส่งนวัตกรรมคนไทยไปตีตลาด

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

SCG เปิดตัว ‘มายด์’ (mind) โซลูชันบ้านอัจฉริยะ เชื่อมได้ทุกอุปกรณ์ พร้อมส่งนวัตกรรมคนไทยไปตีตลาด

Date Time: 17 ส.ค. 2566 11:14 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • SCG เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “มายด์” (mind) โซลูชันเพื่อบ้านอัจฉริยะรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยง่ายขึ้น เปลี่ยนภาพจำระบบ Smart Home ที่ยุ่งยากซับซ้อนด้วย ‘อุปกรณ์ Smart Home มาตรฐานใหม่’ ใช้ง่าย-ปลอดภัย-รู้ใจคนทุก Gen

นายอภิรัตน์ หวานชะเอม Chief Digital Officer, SCG Digital Office เปิดเผยว่า SCG มุ่งสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชันภายในที่อยู่อาศัย ผ่านแนวคิด Passion for Better Living เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นด้วย นวัตกรรมโดยคนไทย Born in Thailand (BiT) แก้ปัญหาตลาด Smart Home ในช่วงที่ผ่านมาที่เน้นขายอุปกรณ์ การใช้งานที่ยากซับซ้อน และไม่มีบริการหลังการขาย 

3 จุดเด่นของ mind 

  • Completely Integrated mind คือ แบรนด์แรกในไทยที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานระหว่างแอปพลิเคชัน mind ร่วมกับอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ไม่จำกัดแบรนด์ ผ่านสัญญาณ WiFi ให้สามารถเปิด-ปิดการทำงานได้อัตโนมัติ พร้อมวิเคราะห์และประมวลผลจากข้อมูลการใช้งานของผู้อยู่อาศัย
  • Completely Secured ความปลอดภัยของข้อมูลผู้อยู่อาศัยกับ Trinity Edge Gateway ระบบ IoT Ecosystem Platform เชื่อมต่อการทำงานอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านได้แบบไร้รอยต่อ พร้อมจัดเก็บข้อมูลบน Cloud ประสิทธิภาพสูงที่ปลอดภัยตั้งแต่ที่ตั้ง Server รวมถึงการเข้าใช้ระบบ SCG ID ระบบการยืนยันตัวตนผู้ใช้งานที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมให้สิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์จากเครือ SCG และพันธมิตรชั้นนำ อาทิ ส่วนลดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนลดสินค้าในเครือ SCG Home ส่วนลดโรงแรม
  • Completely Managed บริการการดูแลเต็มรูปแบบจากทีมงานมืออาชีพของ SCG ที่จะให้บริการครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา ลงพื้นที่จริงถึงบ้านของลูกค้า ประเมินแล้วออกแบบติดตั้งโซลูชันจนถึงหลังติดตั้ง พร้อมทีมห้องปฏิบัติการ คอยแจ้งเตือนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือมีสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติ และทีมคอลเซ็นเตอร์ ให้ความช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยทันทีตลอด 24 ชั่วโมง 

โซลูชันภายใต้แบรนด์ mind ประกอบด้วย ‘mind Solutions’ รูปแบบ Mobile App และ Home App เชื่อมต่อสั่งการทุกอุปกรณ์ รวมถึงการติดต่อกับทีมงานมืออาชีพที่จะดูแลทั้งก่อนและหลังการขายตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะดูแลตั้งแต่ให้คำปรึกษา ลงพื้นที่จริงถึงบ้านของลูกค้า ประเมินแล้วออกแบบติดตั้งโซลูชันที่จำเป็นและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย และ ‘mind Device’ อุปกรณ์ IoT ประเภทต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ ได้แก่

  • เซฟดี (Saving) เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน ด้วยโซลูชันตรวจจับการทำงาน และควบคุมการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติด้วย Smart Switch
  • อยู่ดี (Well-being) เสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย ด้วยคุณภาพอากาศที่ดี ลดมลพิษ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดความชื้นในห้องน้ำซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเชื้อรา เจาะกลุ่มผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
  • ไยดี (Caring) ส่งผ่านความห่วงใยไปยังคนในครอบครัว ด้วยโซลูชันดูแลเด็กเล็กและผู้สูงอายุ สามารถตรวจจับและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินได้ทันที หรืออุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงโซลูชันดูแลความปลอดภัยรอบบ้าน
  • ฟีลดี (Feeling) สร้างสุนทรียะการอยู่อาศัย ด้วยการปรับแสง เสียง กลิ่น ให้เข้ากับทุกอารมณ์ โหมดสร้างบรรยากาศได้หลากหลาย โหมดผ่อนคลาย หรือโหมดปลุกพลังงานให้พร้อมกับการทำงาน

ด้าน นางนันทพัชร์ ศรีสุวรรณ Head of Sales and Marketing, SCG Digital Office กล่าวเสริมว่า mind พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกช่วงวัยที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น สอดรับกับกระแสการเติบโตของตลาดบ้านอัจฉริยะที่กลายเป็นจุดขายสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกในปัจจุบัน   

ทั้งนี้ SCG ตั้งเป้าขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ และเจาะกลุ่มลูกค้าธุรกิจ (B2B) ที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจออกแบบ และบริษัทรับสร้างบ้าน โดยอยู่ระหว่างการพูดคุยกับหลากหลายบริษัท ขณะที่ลูกค้ารายบุคคล (B2C) เล็งเปิดตัว Online Store รูปแบบใหม่ปลายปีนี้ เพื่อรับบริการให้คำปรึกษาและติดตั้ง 

พร้อมทั้งเดินหน้าขยาย IoT Smart Home Ecosystem ในประเทศไทย โดยจับมือร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน หน่วยงานที่ส่งเสริมด้านเทคโนโลยี ผู้พัฒา IOT ผู้ให้บริการเทคโนโลยี ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร สถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการ SME เพื่อปักธงก้าวสู่ผู้นำตลาด IoT Smart Home ในอาเซียน ติดตั้งโซลูชัน 100,000 หลังในปี 2025 และขยายสู่ตลาดโลกภายใน 4 ปี 

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ