Visa ผู้นำระดับโลกด้านการชำระเงินแบบดิจิทัล เปิดตัว “Visa Tokenized Asset Platform” หรือ VTAP แพลตฟอร์มจัดการโทเค็นดิจิทัลและ Stablecoins สำหรับธนาคารทั่วไป ช่วยธนาคารออกและโอนเหรียญบนบล็อกเชน เชื่อมโยงสกุลเงินปกติสู่โลกดิจิทัล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบพัฒนาโดยคาดว่าจะเปิดนำร่องให้พันธมิตรสถาบันการเงินเข้าใช้ผ่าน Visa’s Developer Platform ในปี 2025
VTAP จะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถจัดการ ตั้งแต่การทำ Smart Contract การฝากเงินในรูปแบบโทเค็น รวมถึงการสร้าง-เบิร์น-โอน Stablecoins สกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีที่มีกลไกสำหรับการคงมูลค่าที่มักจะตรึงมูลค่าไว้กับสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่น สกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ทองคำ หรือพันธบัตร
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม VTAP ของ Visa ถูกพัฒนาขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนภายในของบริษัทที่เชื่อมโยงกับ Ethereum ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้บูรณาการกับเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ของธนาคารได้อย่างง่ายดาย ปลอดภัยสูง
ธนาคารทั่วไปสามารถนำ API ไปใช้เพื่อเขียนโปรแกรมในการออกเหรียญหรือปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการธุรกรรมที่ซับซ้อน เช่น วงเงินสินเชื่อหรือการทำให้แปลงสินทรัพย์เดิมให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล นอกจากนี้ยังเตรียมพัฒนาโซลูชันเพิ่มเติมเพื่อขยายฟีเจอร์ให้บริการที่อยู่บนเครือข่ายของ Visa ทั้งการจัดการเรื่องกระเป๋าเงินและ Private Keys โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม
ปัจจุบัน Visa กำลังนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ร่วมกับการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เดิม สร้างแพลตฟอร์มเพื่อช่วยให้ธนาคารบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับการดำเนินงานของตน และสร้างความก้าวหน้าให้กับอุตสาหกรรมการเงินอีกครั้ง
โดย Visa กล่าวว่าตนยังมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับสถาบันการเงินและฟินเทคเพื่อพัฒนามาตรฐานและความสามารถที่จะช่วยให้เทคโนโลยีการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ เหล่านี้เติบโตได้อย่างปลอดภัย น่าเชื่อถือและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ขณะที่อีกหนึ่งผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลเจ้าใหญ่ PayPal โชว์ความสำเร็จการใช้ "PayPal USD" (PYUSD) เหรียญ Stablecoins ของตนเองในการทำธุรกรรมทางการค้า หลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
โดยรายงานระบุว่า PayPal ใช้ PYUSD ชำระหนี้ให้กับ Ernst & Young LLP โดยอาศัยแพลตฟอร์ม SAP SE ในการทำธุรกรรมให้เสร็จสมบูรณ์ โดยแพลตฟอร์มของ SAP เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ช่วยให้บริษัทสามารถโอนและรับการชำระเงินดิจิทัลได้ทันที
ซึ่งก่อนหน้านี้ PayPal ได้อนุญาตให้ผู้ค้าซื้อขายและถือครองสกุลเงินดิจิทัลจากบัญชีธุรกิจของตนเอง โดยต้นปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มการชำระเงิน BVNK ซึ่งสนับสนุน Stablecoin ของ PayPal ได้เริ่มให้ธุรกิจสหรัฐฯ ส่งเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไปยังแพลตฟอร์มของตนในประเทศอื่นผ่าน Swift และทำการชำระเงินในภายหลังด้วย Stablecoin ได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง
PayPal เปิดเผยว่า การทำธุรกรรมทางการค้าระหว่างธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ธุรกรรมข้ามพรมแดน" ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการและมีค่าใช้จ่ายสูงและในบางกรณีมีความเสี่ยง เนื่องจากต้องพึ่งพาบุคคลที่สามตามความจำเป็น ไม่นับในช่วงที่ประเทศต่างๆ เผชิญปัญหาเรื่องสกุลเงินผันผวน
ความเร็วและความพร้อมของเทคโนโลยีชำระเงินบนระบบบล็อกเชนได้กลายเป็นอีกทางเลือกที่สมเหตุสมผล ธุรกิจบางแห่งเริ่มเปิดให้ชำระเงินด้วย Stablecoin เช่น Tether หรือ Circle มาก่อนหน้านี้ แม้ว่าภาคอุตสาหกรรมคริปโตฯ ต้องรับมือกับความผันผวนหลังวิกฤตความเชื่อมั่นจากคดีของ Sam Bankman-Fried ในปี 2022 และ TerraUSD ก่อนหน้านี้
ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ สองยักษ์ใหญ่เพย์เมนต์กำลังเบิกทางให้กับผู้เล่นรายอื่นๆ ในการพัฒนาโซลูชันชำระเงินด้วยโทเค็นดิจิทัลและ Stablecoins อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่โลกสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าใกล้ธนาคารมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้จากสถาบันการเงินรายใหญ่ระดับโลก อาทิ JPMorgan Chase และ Citigroup ก็ได้ก้าวเข้ามาพัฒนาบล็อกเชนของตนเองพลิกโฉมการออกพันธบัตรดิจิทัล ตลอดจนกองทุน Bitcoin ETF ที่เข้ามาสร้างความคึกคักในช่วงที่ผ่านมา
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -